Inti Labs บริษัทเทคโนโลยีชีวภาพ เปิดตัว ORA™ เทคโนโลยีตรวจความพร้อมของเยื่อบุโพรงมดลูกแบบไม่รุกล้ำ ช่วยเพิ่มอัตราความสำเร็จในการทำเด็กหลอดแก้ว (IVF) โดยไม่ต้องตัดชิ้นเนื้อ!
ปัญหาการทำ IVF ในปัจจุบัน
แม้ IVF จะเป็นเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ที่ได้รับความนิยม แต่ก็ยังมีความท้าทายในการระบุช่วงเวลาที่เหมาะสมในการย้ายตัวอ่อน วิธีการแบบเดิมอย่าง ERA ต้องตัดชิ้นเนื้อจากเยื่อบุโพรงมดลูก ซึ่งใช้เวลานาน สร้างความไม่สะดวก และมีค่าใช้จ่ายสูง
ORA™ คืออะไร?
ORA™ (Optimal Receptivity Analysis) เป็นเทคโนโลยีใหม่ที่วิเคราะห์ไมโครอาร์เอ็นเอ (miRNA) จากเลือด เพื่อประเมินความพร้อมของเยื่อบุโพรงมดลูก โดยไม่ต้องตัดชิ้นเนื้อ
ข้อดีของ ORA™
- ไม่รุกล้ำ: ตรวจด้วยการเจาะเลือดเพียงครั้งเดียว
- แม่นยำ: ระบุช่วงเวลาที่เหมาะสมในการย้ายตัวอ่อนได้อย่างแม่นยำถึง 95%
- ประหยัด: ลดความจำเป็นในการทำรอบทดสอบ (Mock cycle) และค่าใช้จ่ายอื่นๆ
วิทยาศาสตร์เบื้องหลัง ORA™
ORA™ ใช้ miRNA เป็นตัวบ่งชี้ ซึ่งได้รับการยืนยันจากรางวัลโนเบล สาขาสรีรวิทยาหรือการแพทย์ ว่ามีบทบาทสำคัญในการควบคุมการทำงานของเซลล์ Inti Labs ใช้เทคโนโลยีชีวสารสนเทศและระบบการเรียนรู้ของคอมพิวเตอร์ วิเคราะห์รูปแบบ miRNA เพื่อระบุช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุดสำหรับการฝังตัวของตัวอ่อน
ดร.เอริค ปก หยาง ผู้ก่อตั้ง Inti Labs มีวิสัยทัศน์ที่จะพัฒนา IVF สู่ “IVF 2.0” โดยมุ่งเน้นที่
- การระบุช่วงเวลาการฝังตัวอ่อนด้วย ORA™
- การจัดระดับคุณภาพของไข่
- การทำให้กระบวนการ IVF เป็นระบบอัตโนมัติ
เพื่อลดต้นทุนและทำให้ผู้ป่วยทั่วโลกเข้าถึง IVF ได้ง่ายขึ้น
ORA™ เหมาะกับใคร?
- ผู้ที่มีประวัติการฝังตัวอ่อนไม่สำเร็จหรือเคยแท้งบุตร
- ผู้ที่มีตัวอ่อนคุณภาพสูงเหลืออยู่เพียงไม่กี่ตัว
- ผู้หญิงที่มีอายุ 35 ปีขึ้นไป
ORA™ นับเป็นความหวังใหม่สำหรับผู้มีบุตรยาก ช่วยเพิ่มโอกาสในการตั้งครรภ์ ลดความเครียด และค่าใช้จ่าย โดย Inti Labs มุ่งมั่นที่จะนำนวัตกรรมนี้มาช่วยให้ผู้ป่วยได้มีบุตรสมใจ