Huawei ได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์อุปกรณ์รุ่นใหม่ล่าสุดช่วงปลายปี ซึ่งมีความหลากหลายมากมายประกอบไปด้วยทั้งหมด 4 อย่างทั้งมือถือใหม่ Huawei Nova 9, Watch GT3, MateBook 14s และ สุดท้ายกับ Huawei Vision TV
Huawei Nova 9
มือถือรุ่นล่าสุดที่มาพร้อมกับ บางเพียง 7.5 มิลลิเมตร น้ำหนัก 175 กรับ พร้อมกับสีสัน Starry Blue จะเปลี่ยนจากสีฟ้าเป็นสีม่วงและดู Premium ไม่เหมือนใคร และ สีดำ ให้ความรู้สึกที่เรียบหรูดูแพง
กล้องวางคล้ายกับ Nova 8 เพิ่มวงแหวนเข้ามาและการวางตำแหน่ง Flash จะเรียบหรูมากขึ้น และยังมาพร้อมกับหน้าจอแบบโค้ง 3D Curve และมี Refresh Rate 120Hz
เทคโนโลยีของภาพ Huawei Nova 9 จะมาพร้อมกับเซนเซอร์กล้องหลักความละเอียด 50 ล้านพิกเซล ในแบบ RYYB (RED Yellow Yellow Blue) จะมีให้เห็นอย่างคมชัด และเก็บรายละเอียดได้มากขึ้น และความสว่างมากขึ้น ขนาดเซนเซอร์ 1/1.56 นิ้ว ทั้งนี้ยังมีเทคโนโลยีการถ่ายภาพรวมการไม่ว่าจะเป็น AI Snapshot ถ่ายภาพสิ่งให้มีการเคลื่อนไหว คือการถ่ายภาพต่อเนื่องแล้วเครื่องจะเลือกภาพที่ดีที่สุด
นอกจากนี้ยังมีเลนส์มุมกว้างในระดับกลางซึ่งภาพจะไม่มีการเบี้ยวผิดองศา และเลนส์ Ultra Wide ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล ใช้แบบเดียวกับเรือธง และมีกล้อง Macro และ ละลายหลัง 2 ล้านพิกเซล
กล้องหน้าความละเอียด 32 ล้านพิกเซล รองรับ AI Beauty Mode มาให้และมีการละลายหลังผ่าน Bokeh Portrait Mode ที่ยังสามารถทำได้ แถมยังถ่าย Video ความละเอียด 4K และมีการเพิ่ม AIS Video Stabilization ทั้งกล้องหน้าและกล้องหลัง และยังมีการบันทึกกล้องหน้าและหลังในเวลาเดียวกันได้ โดยไม่ต้อง และถ่ายภาพแบบ Dual View ทั้งกลองหน้าและหลัง
รองรับการค้นหาที่ต้องการและสามารถใช้ One-Click Editior ตัดต่อได้เลย แถมยังรองรับฟีเจอร์การตัดต่อผ่าน Petal Clip คือโปรแกรมตัดต่อวิดีโอฟรีผ่านมือถือ Huawei Nova 9 แบบฟรี
หน้าจอให้คุณภาพสีที่สวยระดับ 1 ล้านสีและมีการปรับระดับแสงได้ 100K และรองรับ Touch Sampling Rate 300 Hz และมีฟีเจอร์ Pixel Level Correction จะเหมาะกับคนที่เล่นเกมแนว Shooting จะมีการกดพอดี และ Ultra High Resolution Touch
ชาร์จไฟเร็วสุดที่กำลัง 66W ขนาดแบตเตอรี่ 4300 mAh และสามารถใช้งานเวลาชาร์จไฟสามารถเต็มภายใน 38 นาที ขุมพลังเป็น Qualcomm Snapdragon 778G รองรับการเชื่อมต่อ 4G ที่ทำงานได้เร็วกว่าและรองรับ Wi-Fi 6 ที่เร็วสุดและวหม่สุด ดาวน์โหลดได้เร็ว แถมใช้งาน Mee Time และรองรับ Multi Screen Collaboration ได้ด้วย ผ่าน Huawei TV, Huawei MatePad, Matebook เป็นต้น มาพร้อมกับ EMUI 12 ใหม่ล่าสุด
รวมถึงการปลดล็อค Smart Unlock ในตัว Huawei Nava 9, Huawei Themes ที่จะมีการอัปเดตใหม่ในกลางเดือนหน้า
Huawei MateBook 14S
Huawei Matebook 14s ถูกสร้างเพื่อให้การทำงานที่ดีมากขึ้น รองรับการใช้งานที่หนักหน่วงมากขึ้น พร้อมกับสีสันของที่เป็นแบบด้านคือ สีเขียว Spruce Green และ Space Grey โดยกล้องจะเปลี่ยนจากที่ Keyboard มาเป็นกล้องที่หน้าจอแทน น้ำหนัก 1.43 กิโลกรัม
หน้าจอจะได้ความละเอียด 2.5K มากกว่าเดิม พร้อมกับ Refresh Rate 90Hz กดปุ่ม FN + R หรือจะตั้งค่าให้ปรับอัตโนมัติ ในอัตราส่วน 3:2 ปรับแสงอัตโนมัติแบบมือถือ ความสว่างอยู่ที่ 400 nits ขอบจอด้านบนบางเพียง 6.3 มิลลิเมตร และขอบจอด้านล่าง 90 มิลลิเมตร และเป็นแบบ Touch Screen
ขุมพลังของเครื่องรุ่นนี้จะมีให้เลือกทั้ง Intel Core i7 11370GH / i5 11300H พร้อมกับ GPU Intel Iris Xe จะมาพร้อมกับการปรับศักยภาพให้รองรับกับกำลังสูงสุด 45W ผ่าน FN+P และจะมีเทคโนโลยีของ Intel EVO Platform ในรุ่นบนสุด เพราะรองรับ Wi-Fi 6 ใหม่ล่าสุดและ เปิดเครื่องได้รวดเร็ว
ระบบรายอากาศมาพร้อมกับ พัดลมมีใบพัดกว่า 79 ใบพัดพร้อมกับ Heat pipe ที่มีขนาด 8 มิลลิเมตร และมีช่องเสียบครบทั้ง USB-C ทั้งหมด 2 ช่อง HDMI, USB-A ทั้งหมด 2 ช่องและช่องเสียบหูฟังลำโพงมีทั้งหมด 2 Bass, 2 Tweeter พร้อมกับไมโครโฟนทั้งหมด 4 ตัวพร้อมกับ AI Noise Cancellation
แป้นพิมพ์มีระยะการกดแค่ 1.5 มิลลิเมตรและมีไฟเรืองแสงและพิมพ์ได้ดี ให้แบตเตอรี่ 60Wh ใช้ดูหนังได้ 13 ชั่วโมง พร้อมกับชาร์จไฟกำลัง 65W ผ่าน Huawei Super Charge ทั้งนี้จะมาพร้อมกับ ระบบสแกนลายนิ้วมือที่ปุ่ม Power สแกนใบหน้า และยังรองรับ Wi-Fi 6 MIMO และรองรับ Huawei PC AppGallery จากมือถือลงมาอยู่บน PC โดยเคลมว่าใช้งานได้ทุก Apps
Huawei Watch GT3
Smart Watch ที่ได้แรงบันดาลใจของการออกแบบ GT Series ได้รับจากรถสปอร์ต และ Huawei Watch GT 3 Series จะมีการเปลี่ยนแปลงมากมายเช่นเรื่องของการจับค่า ดีไซน์สวยไม่แพ้รุ่น Digital Series ระบบ Health Management ทำได้ดีมากขึ้น และ แบตเตอรี่อึดมากขึ้น
Huawei Watch GT 3 จะมีให้เลือกทั้งขนาด 46 มิลลิเมตร และ 42 มิลลิเมตร หน้าจอแตกต่างกันเล็กน้อย แต่น้ำหนักอยู่ระหว่าง 42.6 กรัม และ 35 กรัมเท่านั้น ด้านข้างบางเพียง 11 มิลลิเมตรกับขนาด 46 มม. 10.2 มิลลิเมตรของ 42 มม. มีปุ่มหมุด Rolling Crown ที่สามารถทำงานได้คล้ายกับ Huawei Watch 3 สามารถกดซูมเข้าออก, กดค้างเพื่อลบหรือย้ายตำแหน่งได้ ทำให้มันใช้งานได้ง่ายมากขึ้น กันน้ำ 5ATM ความลึก 50 เมตร
หน้าจอสามารถแสดงผล Always On Display ได้และยังมีหน้าปัดที่หลากหลาย มีให้เลือกแบบหลากหลายทั้งฟรีและเสียเงิน และมาพร้อมกับ Huawei TruSeen 5.0+ ที่มีความแม่นยำสูงและประหยัดพลังงานได้เช่นเดียวกัน
นอกจากนี้มีการจับสัญญาณ GPS ได้อย่างแม่นยำและยังรองรับฟีเจอร์ในเรื่องของการบอกพิกัดและจดจำเส้นทางที่เคยไป และรวมไปถึง การวางแผนสำหรับในเรื่องของการวิ่ง
นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์ Running Ability Evaluation ทำให้สามารถจัดการการวิ่งอย่างไร และสามารถจัดการแผนตามการวิ่ง และการจดจำข้อมูลในอดีตและวิเคราะห์เพื่อจับการวิ่งได้และมีเซนเซอร์มากมาย รวมไปถึง 100 โหมดการออกกำลังกาย และ การติดตามชีวิตประจำวัน เช่นการวัดชีพจร, รอบเดือน, SpO2 เป็นต้น แถมเชื่อมต่อกับเครื่องออกกำลังกายได้ด้วย
ใช้งานได้นานสุด 14 ชั่วโมงสำหรับขนาด 46 มิลลิเมตร และ 7 วันสำหรับ 42 มิลลิเมตร ใช้ระบบปฏิบัติการ Harmony OS สามารถใช้งานทั้งการรับสายแล้วพูดคุยผ่าน Smart Watch ฟังเพลง ผ่าน Bluetooth Calling รองรับทั้ง iOS และ Android
และสามารถใช้งานกับ Huawei Health รวมไปถึง Download Application และมีฟีเจอร์ ช่วยเหลือการใช้งานในชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเป็นเครื่องอัดเสียง, Shutter ผ่านมือถือ และ อ่าน Text รองรับภาษาไทย
Huawei Vision S
ครั้งแรกของ Huawei กับการเปิดตัวทีวีอัจฉริยะที่มาพร้อมกับหน้าจอขนาด 65 นิ้ว โดยมาพร้อมกับฟีเจอร์ครบเครื่อง โดย Huawei Vision S จะมาพร้อมกับความละเอียด 4K และให้สีสันคมชัดพร้อมกับ Refresh Rate 120Hz และ มีค่าสี DCI-P3 และผ่านมาตรฐานการถนอมสายตาจาก tuv rheinland
ส่วนระบบเสียงมาพร้อมกับลำโพง 4 จุดกำลังลูกละ 10W และมี Sound Cavitry ทำให้เสียงที่ได้ออกมาคมชัดและเต็มอิ่ม และยังรองรับการแสดงผลกับ Apps ภาพยนตร์ ต่างๆ ได้มากมาย
นอกจากนี้ยังรองรับการทำงานผ่านระบบปฏิบัติการ Harmony OS การเชื่อมต่อครบเครื่อง รองรับ Mee Time, ต่อ Webcam ให้มุมกว้างมากขึ้น สามารถตอบสนองการทำงานผ่าน Huawei Share, Mirror Control, OneHop Projector (เฉพาะมือถือ Huawei), Distriuted Gaming และสามารถต่อเชื่อมกับอุปกรณ์อื่นทั้ง Google Chrome Cast, กล่องต่างๆ เป็นต้น
ทั้งนี้ Webcam ของ Huawei vision S จะมีความละเอียด 13 ล้านพิกเซล และวิดีโอ Call ผ่าน Mee time ทำความละเอียด 1080p และติดตั้ง Apps เพิ่มเติมผ่าน Huawei AppGallery เช่นเดียวกัน
สำหรับราคาของอุปกรณ์ทั้งหมดมีดังนี้
- Huawei Nova 9 ยังไม่ประกาศราคา
- Huawei Matebook 14s = 40,990 บาท (Intel Core i5) | 55,990 บาท (Intel Core i7 EVO Platform) โดยมาพร้อมกับการ Pre-Order จะมีแถมหูฟัง Huawei FreeBuds Pro มูลค่า 5,490 บาท)
- Huawei Matebook 14 Intel Core i5 RAM 8GB / SSD 512GB = 33,990 บาท
- Huawei Watch GT3 ขนาด 42 มิลลิเมตร = ยังไม่ประกาศราคา | ขนาด 46 มิลลิเมตร = ยังไม่ปรกาศราคา
- Huawei Vision S ขนาด 55 นิ้ว = 2x,990 บาท และ 65 นิ้ว = 3x,990 บาท