![HR บอกเอง! ความเชื่อผิดๆ ในการเขียน "เรซูเม่" สมัครงาน เขียนแบบนี้โยนทิ้งเป็นใบแรก HR บอกเอง! ความเชื่อผิดๆ ในการเขียน "เรซูเม่" สมัครงาน เขียนแบบนี้โยนทิ้งเป็นใบแรก](https://s.isanook.com/ns/0/ud/1944/9720414/new-thumbnail1200x720-2025-.jpg?ip/crop/w1200h700/q80/jpg)
HR มาบอกเอง: รวมความเชื่อผิดๆ เกี่ยวกับการเขียน Resume / CV แทนที่จะได้งาน กลับถูกคัดทิ้งเป็นใบแรกๆ
การเขียน Resume หรือ CV เพื่อสมัครงานเป็นขั้นตอนสำคัญที่ผู้สมัครงานทุกคนต้องเจอ บางครั้งเราอาจมีความเชื่อที่ผิดๆ ในการเขียน ซึ่งอาจทำให้โอกาสได้รับงานของคุณลดลง แทนที่จะเป็นการดึงดูด HR กลับกลายเป็นการทำให้ Resume ของคุณถูกคัดทิ้งตั้งแต่แรก จากการศึกษาของฝ่ายบุคคลและหน่วยงานรับสมัครงานชั้นนำ เช่น CareerBuilder และ TopResume พบว่าหลายคนยังเข้าใจผิดเกี่ยวกับการเขียน Resume ซึ่งส่งผลเสียมากกว่าผลดี นี่คือความเชื่อผิดๆ เกี่ยวกับการเขียน Resume ที่ HR อยากให้คุณหลีกเลี่ยง
1. Resume ยิ่งยาวยิ่งดี
ความเชื่อผิด: หลายคนคิดว่า Resume ที่ยาวและอัดแน่นไปด้วยรายละเอียดทุกอย่างจะสร้างความประทับใจให้กับ HR ความจริง: HR ส่วนใหญ่ใช้เวลาเฉลี่ยประมาณ 6-7 วินาทีในการสแกน Resume เบื้องต้น การใส่ข้อมูลที่ไม่จำเป็นหรือยืดยาวเกินไปอาจทำให้ HR พลาดจุดสำคัญของคุณ LinkedIn ระบุว่า Resume ที่สั้น กระชับ และตรงประเด็นมีโอกาสผ่านการคัดเลือกมากกว่า การใช้หน้ากระดาษไม่เกิน 1-2 หน้าถือเป็นมาตรฐานที่ดี
2. ใช้เทมเพลตแปลกใหม่จะดูโดดเด่น
ความเชื่อผิด: การใช้เทมเพลตหรือการออกแบบที่ไม่เหมือนใครจะทำให้คุณโดดเด่นในสายตา HR ความจริง: เทมเพลตที่ซับซ้อนและตกแต่งเกินไปอาจทำให้โปรแกรม ATS (Applicant Tracking System) ซึ่งเป็นระบบที่บริษัทส่วนใหญ่ใช้ในการคัดกรอง Resume เบื้องต้น ไม่สามารถอ่านข้อมูลของคุณได้อย่างถูกต้อง ทำให้คุณพลาดโอกาส Jobscan แนะนำให้ใช้รูปแบบที่เรียบง่าย สะอาดตา เพื่อให้ ATS สามารถดึงข้อมูลได้อย่างสมบูรณ์
3. การใส่ข้อมูลประสบการณ์ทุกงานที่เคยทำมาจะช่วยเพิ่มโอกาส
ความเชื่อผิด: การใส่รายละเอียดของทุกงานที่เคยทำมาแม้จะไม่เกี่ยวข้องกับงานที่สมัครจะช่วยแสดงให้เห็นถึงประสบการณ์หลากหลาย ความจริง: HR ต้องการดูแค่ประสบการณ์ที่เกี่ยวข้องกับตำแหน่งที่คุณสมัคร การใส่ข้อมูลประสบการณ์ที่ไม่เกี่ยวข้องอาจทำให้ Resume ของคุณดูไม่มีโฟกัส จากการศึกษาของ Glassdoor แนะนำว่าให้เลือกประสบการณ์ที่สอดคล้องกับงานที่คุณสมัคร และปรับแต่ง Resume ให้ตรงกับแต่ละตำแหน่งงาน
4. การเขียน Objective Statement หรือเป้าหมายการทำงานที่ยาวเกินไป
ความเชื่อผิด: การเขียนวัตถุประสงค์ในการทำงาน (Objective Statement) ยาวๆ จะทำให้ HR เข้าใจว่าคุณมีความตั้งใจ ความจริง: Objective Statement ที่ยาวและไม่เฉพาะเจาะจงมักจะทำให้ HR ข้ามไปทันที แทนที่จะเขียนเป้าหมายการทำงานที่ยืดยาว ลองเปลี่ยนมาใช้ Summary Statement สั้นๆ ที่บอกเล่าทักษะและประสบการณ์ของคุณที่เชื่อมโยงกับตำแหน่งงานที่สมัครจะมีประสิทธิภาพมากกว่า
5. ใส่รูปภาพลงใน Resume ทำให้ดูเป็นมืออาชีพ
ความเชื่อผิด: การใส่รูปภาพของตัวเองใน Resume จะช่วยเพิ่มความเป็นมืออาชีพและทำให้ HR จำคุณได้ ความจริง: ในหลายประเทศและบริษัท รูปถ่ายไม่ใช่สิ่งที่จำเป็นใน Resume ยิ่งไปกว่านั้น การใส่รูปภาพอาจทำให้ Resume ของคุณถูกมองว่าไม่เป็นมืออาชีพหรือเกิดปัญหาทางกฎหมายในเรื่องการเลือกปฏิบัติ TopResume แนะนำให้หลีกเลี่ยงการใส่รูปภาพลงใน Resume เว้นแต่จะเป็นข้อกำหนดเฉพาะของบริษัทหรืออุตสาหกรรมที่คุณสมัคร
6. การใช้ Buzzwords มากๆ จะทำให้ Resume ดูน่าสนใจ
ความเชื่อผิด: การใช้คำศัพท์เฉพาะหรือ Buzzwords เช่น “team player,” “go-getter,” “dynamic” จะทำให้ Resume ของคุณน่าสนใจและเป็นที่ดึงดูด ความจริง: HR จะมองว่าคำเหล่านี้เป็นคำที่ซ้ำซากและขาดความเฉพาะเจาะจง จากการสำรวจของ Indeed พบว่า Resume ที่เน้นทักษะจริงและใช้ภาษาที่ตรงไปตรงมามีโอกาสได้รับการพิจารณามากกว่า Buzzwords ที่ขาดความหมาย
7. การไม่ใส่ข้อมูลช่องทางติดต่อให้ครบถ้วน
ความเชื่อผิด: การใส่เพียงแค่อีเมลหรือเบอร์โทรศัพท์พอแล้ว ไม่จำเป็นต้องใส่ LinkedIn หรือช่องทางอื่นๆ ความจริง: ในยุคดิจิทัล การมีโปรไฟล์ใน LinkedIn เป็นสิ่งจำเป็น HR หลายคนใช้ LinkedIn เพื่อดูประวัติของผู้สมัครเพิ่มเติม ดังนั้น อย่าลืมใส่ลิงก์ไปยังโปรไฟล์ LinkedIn ของคุณไว้ใน Resume TopResume ยังแนะนำให้ใส่ข้อมูลการติดต่อให้ครบถ้วน เช่น อีเมล เบอร์โทรศัพท์ และ LinkedIn เพื่อให้ HR ติดต่อคุณได้สะดวก
8. Resume ต้องเขียนเป็นภาษาอังกฤษเท่านั้น
ความเชื่อผิด: บางคนเชื่อว่า Resume ที่เขียนเป็นภาษาไทยจะถูกคัดทิ้งทันที เนื่องจากบริษัทส่วนใหญ่ใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาสากลในการสื่อสาร ความจริง: Resume ควรเขียนตามภาษาที่บริษัทใช้ในการสื่อสาร หากคุณสมัครงานในบริษัทที่ใช้ภาษาไทยในการสื่อสารและทำงาน เช่น องค์กรภาครัฐ โรงเรียน หรือบริษัทท้องถิ่นในประเทศไทย การเขียน Resume เป็นภาษาไทยถือเป็นเรื่องปกติ แต่หากคุณสมัครงานในบริษัทต่างชาติหรือองค์กรที่ใช้ภาษาอังกฤษในการทำงาน การเขียน Resume เป็นภาษาอังกฤษจะเพิ่มโอกาสในการพิจารณามากขึ้น จากการสำรวจของ LinkedIn พบว่า Resume ภาษาอังกฤษในบริษัทนานาชาติมีโอกาสได้รับการตอบรับมากกว่า Resume ภาษาไทยในอัตราที่สูงกว่า 40% ดังนั้น ก่อนเขียน Resume ควรพิจารณาถึงภาษาที่บริษัทใช้ในการสื่อสารเป็นหลัก
สรุป
Resume / CV ที่ดีควรสั้น กระชับ ชัดเจน และเน้นเฉพาะข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับตำแหน่งที่สมัคร การใส่ข้อมูลที่ไม่จำเป็นหรือการใช้เทมเพลตที่ซับซ้อนอาจทำให้คุณพลาดโอกาสสำคัญได้ คำแนะนำจากฝ่ายบุคคลที่น่าเชื่อถืออย่าง CareerBuilder และ TopResume ชี้ให้เห็นว่าความเรียบง่ายและชัดเจนของ Resume เป็นกุญแจสำคัญในการได้รับงานในยุคปัจจุบัน