คงไม่ต้องสาธยายกันมากกับยี่ห้อ “ฟาบริซิโอ โรมาโน่” ผู้สื่อข่าวคนดังชาวอิตาเลียน ที่พร้อมเสิร์ฟข่าวลูกหนังแบบร้อนๆ ระดับคลุกวงในให้คุณได้รับทราบก่อนใคร และยังแม่นยำในระดับที่ถ้าประทับตรา HERE WE GO! แล้วก็ยากจะบิดเบี้ยวเป็นอื่นไปได้
ในโอกาสที่ตลาดซื้อขายนักเตะรอบแรกของซีซั่นนี้กำลังจะปิดตัวลง โรมาโน่ ให้ทรรศนะอย่างยาวไว้เป็นการจัดอันดับท็อป 5 การซื้อขายย้ายตัวที่ยอดเยี่ยมที่สุดประจำซัมเมอร์นี้
5. ทิยานี่ ไรน์เดอร์ส (อาแซด ไป เอซี มิลาน)
แม้จะเงียบๆ ไม่ได้เป็นข่าวใหญ่ในหน้าสื่อสักเท่าไหร่ แต่ความจริงที่เป็นคือ เอซี มิลาน จัดเป็นหนึ่งใน “ยอดนักช็อป” ประจำซัมเมอร์นี้ ด้วยการทุ่มเงินรวม 114 ล้านยูโร ได้แข้งใหม่มายัง ซาน ซิโร่ มากถึง 8 ราย
หนึ่งในนั้นคือการควานหากองกลางคนใหม่เพื่อทดแทน ซานโดร โตนาลี่ ที่ย้ายสู่ นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด และหวยออกที่ ทิยานี่ ไรน์เดอร์ส มิดฟิลด์ดัตช์วัย 25 จาก อาแซด อัล์คมาร์
อาแซด ดึงตัว ไรน์เดอร์ส มาจาก พีอีซี ซโวลล์ เพื่อปั้นต่อ และภายหลังกลับจากการยืมตัวที่ อาร์เคซี วาลไวค์ แล้วก็กลายเป็นตัวหลักในแดนกลางมาตลอด 2 ซีซั่นหลัง โดยมีสถิติพังประตูน่าสนใจทีเดียว 6 ลูกในซีซั่น 2021/22 และอีก 7 ประตูในซีซั่นที่แล้ว
กระทั่งซัมเมอร์นี้ มิลาน มัดตัวเข้าเสริมแดนกลางด้วยสนนราคา 20 ล้านยูโร บวกแอดออนส์ 5 ล้านยูโรตามผลงานในอนาคต
โรมาโน่ ลงความเห็น : “นี่คือตัวเลือกที่สูสีกับดีล โมฮัมเหม็ด คูดุส ที่ย้ายไป เวสต์แฮม เป็นหนึ่งใน underdog ของตลาดรอบนี้ ที่เราจะได้จดจำชื่อของเขาไปอีกนานแสนนาน”
“เอซี มิลาน ลงทุนกับ ทิยานี่ ไรน์เดอร์ส ด้วยเงิน 20 ล้านยูโร แต่มิดฟิลด์คนนี้ดูมีอะไรพิเศษมากกว่าค่าตัว เขามีคุณภาพอย่างน่าเหลือเชื่อ เป็นนักเตะฉลาด การเป็นตัวแทนของ โตนาลี่ อาจไม่ง่าย แต่ มิลาน ก็ทำได้ดีมากๆ แล้ว ประสบการณ์และการทำงานหนักในอิตาลีจะพาให้ ไรน์เดอร์ส กลายเป็นนักเตะระดับท็อปในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า”
4. โดมินิค โซบอสซ์ไล (แอร์เบ ไลป์ซิก ไป ลิเวอร์พูล)
แทบทุกการขยับตัวของ ลิเวอร์พูล ในส่วนของตลาดขาเข้าประจำซัมเมอร์นี้ ล้วนแต่ตีตรา “เซอร์ไพรส์” ได้ทั้งหมด
เริ่มต้นที่การคว้าตัว อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ จากไบรท์ตัน อย่างรวดเร็วด้วยค่าตัวถูกอย่างเซอร์ไพรส์ (35 ล้านปอนด์ + แอดออนส์ 20 ล้าน) ตามด้วยการซิว โดมินิค โซบอสซ์ไล จาก แอร์เบ ไลป์ซิก อย่างเซอร์ไพรส์ชนิดที่ยอมทุ่มเงินฉีกสัญญา 65 ล้านปอนด์ ก่อนที่จะสร้างดีลเซอร์ไพรส์เป็นรายที่ 3 อย่าง วาตารุ เอ็นโดะ จาก สตุ๊ตการ์ท
สำหรับ โซบอสซ์ไล มิดฟิลด์ตัวรุกกัปตันทีมชาติฮังการีวัย 22 ร่ายฟอร์มเด่นมาตั้งแต่ตอนอยู่ เร้ดบูลล์ ซัลซ์บวร์ก แล้ว ก่อนเป็น แอร์เบ ไลป์ซิก ดึงมาใช้ต่อ และกลายเป็นคีย์แมนของทีมได้ในซีซั่น 2021/22 เป็นต้นมา ด้วยสถิติยิงปีละ 10 ลูก พร้อมภาพจำของการเป็น “เจ้าพ่อลูกนิ่ง” ยุคโมเดิร์น
และโดยไม่ต้องรอนาน โซบอสซ์ไล ก็ถูกยกให้เป็น แมนออฟเดอะแมตช์ แล้ว ในเพียงเกมแรกของการลงเล่น พรีเมียร์ลีก ในแอนฟิลด์ นัดชนะ บอร์นมัธ 3-1
โรมาโน่ ลงความเห็น : “เป็นอีกหนึ่งการเซ็นสัญญาที่ underrated เพราะการเจรจาได้ข้อสรุปอย่างรวดเร็ว ในเพียงแค่ 3 วันที่เปิดเจรจากัน ลิเวอร์พูล ก็ตัดสินใจจ่ายค่าฉีกสัญญา 70 ล้านยูโรให้กับ แอร์เบ ไลป์ซิก แล้ว”
“โดมินิค คือกองกลางยุคใหม่ที่อยู่ในระดับสูงมาก เขาสามารถทำแอสซิสต์ ยิงประตู สร้างความแตกต่างในระยะยาว และจะมีมูลค่าสูงกว่า 100 ล้านยูโรในอนาคต”
“ผมมองว่า การคว้าตัว แม็ค อัลลิสเตอร์ และ โซบอสซ์ไล มาพร้อมกันด้วยราคา 110 ล้านยูโร คือผลงานชิ้นโบว์แดงสำหรับ ลิเวอร์พูล อย่างแท้จริง”
3. ดีแคลน ไรซ์ (เวสต์แฮม ไป อาร์เซน่อล)
เป็นเกมชักเย่อที่แสนดุเดือดประจำซัมเมอร์นี้ เมื่อ ดีแคลน ไรซ์ เป็นเป้าหมายของทั้งแชมป์เก่าและรองแชมป์เก่าพรีเมียร์ลีก อย่าง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ และ อาร์เซน่อล ที่ต่างก็ต้องการแกนหลักแดนกลางคนใหม่
ชัดเจนว่า อดีตเด็กปั้น เชลซี ที่สอบไม่ผ่านจนโดนยกเลิกสัญญากลางคันอย่าง ไรซ์ สอบผ่านฉลุยกับการเป็นผู้นำทีม เวสต์แฮม และทีมชาติอังกฤษตลอดช่วง 2-3 ปีหลัง
ที่รังค้อน มิดฟิลด์วัย 24 ทำสถิติลงเล่นปีละ 50 นัดมา 2 ซีซั่นติดแล้ว ถัดจากการขึ้นชุดใหญ่ปี 2017 สำคัญสุดคือซีซั่นก่อนที่ถึงขั้นพาทีมผงาดแชมป์ ยูฟ่า ยูโรป้า คอนเฟอเรนซ์ ลีก ที่นับเป็นแชมป์ยุโรปหนแรกในรอบ 58 ปีของสโมสร
ผลคือ แมนฯ ซิตี้ กับ อาร์เซน่อล ต้องยื่นซองประมูลแข่งกันแบบตาต่อตาฟันต่อฟัน ปืนเข้าหาด้วยข้อเสนอแรก 70 ล้านปอนด์ ตามด้วย 90 ล้านปอนด์ (75+15) ด้าน เรือใบสีฟ้า หงายไพ่เกทับที่ 90 ล้านปอนด์ (80+10) ก่อนขยับอีกนิดเป็น 85+5
ท้ายสุด ลงเอยด้วยชัยชนะของ อาร์เซน่อล ที่ 100+5 ล้านปอนด์ เป็นสถิติค่าตัวแพงสุดของแข้งชาวอังกฤษ และสถิติราคาสูงสุดในประวัติศาสตร์ทีมปืนโต
โรมาโน่ ลงความเห็น : “การต่อสู้กับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ไม่ง่ายเลย แต่ อาร์เซน่อล ก็เป็นฝ่ายชนะด้วยการได้ตัวแข้งระดับท็อปที่คุณภาพสูงมากทั้งในตอนนี้และอนาคตข้างหน้า”
“ดีแคลน ไรซ์ ไม่ใช่เพียงกองกลาง แต่เขาคือแดนกลาง”
“เมื่อเขาปรับตัวให้เข้ากับงานของ มิเกล อาร์เตต้า ได้เมื่อไหร่ คุณจะเห็นถึงคุณค่าของความพยายามที่ อาร์เซน่อล ต้องการสร้างดีลนี้ให้เกิดขึ้นแบบถึงไหนถึงกัน”
“เครดิตเป็นของ อาร์เซน่อล เพราะการลงทุนครั้งนี้มหาศาลมาก แต่ ไรซ์ จะคุ้มค่าการลงทุนทุกปอนด์ เขามีศักยภาพในการจะสร้างประวัติศาสตร์กับสโมสรแห่งนี้”
2. อิลคาย กุนโดกัน (แมนฯ ซิตี้ ไป บาร์เซโลน่า)
ปิดตำนานกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ไว้ที่การลงสนาม 304 นัดซัด 60 ประตู และมีส่วนร่วมกับแชมป์มากถึง 14 รายการ
ที่จริง เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ไม่ได้อยากเสียขุนพลเอกอย่าง กุนโดกัน ไปสักนิด และได้พยายามโน้มน้าวให้มิดฟิลด์เชื้อสายเติร์กอยู่ต่อแล้ว แต่ก็เป็นทางเจ้าตัวแข้งวัย 32 เองที่อยากไปเปิดประสบการณ์ใหม่ ภายหลังอยู่ในเมืองฝนพรำอย่างแมนเชสเตอร์มานาน 7 ปีเข้าไปแล้ว
และเมื่อสบโอกาสประเหมาะที่ บาร์เซโลน่า ทีมในฝันของเขามีสล็อตแดนกลางว่างอยู่ (และยินดีเป็นอย่างยิ่งที่จะได้นักเตะใหม่ในรูปแบบ Free Transfer) การเซ็นสัญญา 2+1 ปี ระบุค่าฉีกสัญญา 400 ล้านยูโร จึงเกิดขึ้นในที่สุด “ผมประทับใจ ชาบี มาก เขาคือโรลโมเดลของผมเสมอมา และผมดูเขาเป็นแบบอย่างที่สำคัญมาก เขาคือสุดยอด ผมสนุกมากในการดูเขาเล่นกับ บาร์ซ่า ยุครุ่งเรือง” กุนโดกัน กล่าวตอนเข้าเปิดตัวในเครื่องแบบอาซุลกราน่า
แม้จะเป็นการย้ายแบบไร้ค่าตัว บาร์ซ่า ไม่ได้ต้องลงทุนอะไรมากไปกว่าแค่จ่ายค่าจ้าง แต่ก็เพราะการมาแบบฟรีๆ นี่เองที่ โรมาโน่ มองว่าคือดีลที่สุดแสนจะคุ้มค่าสำหรับแชมป์เก่า ลา ลีกา
Transfermarkt เว็บเก็บสถิติฟุตบอลชั้นนำ ประเมินราคา ณ ตอนนี้ของ กุนโดกัน ไว้ถึง 20 ล้านยูโรทีเดียว
โรมาโน่ ลงความเห็น : “หนึ่งในการเซ็นสัญญาที่ไม่ได้ถูกพูดถึงใหญ่โตอะไรในหน้าสื่อ บางทีคงเพราะมันเกิดขึ้นในฐานะฟรีเอเยนต์ แต่ในสายตาของผม อิลคาย กุนโดกัน คือนักเตะที่ถูกประเมินค่าต่ำกว่าความเป็นจริงไปมากที่สุดคนหนึ่ง ในห้วงทศวรรษหลังนี้”
“คุณภาพ เทคนิค ความเป็นผู้นำ และ บาร์ซ่า สามารถเอาชนะหลายๆ สโมสรที่ต้องการตัว อิลคาย ดังนั้นนี่คือการเสริมทัพที่วิเศษมาก คอยดูกันได้เลย เมื่อเกมใหญ่มาถึงเมื่อไหร่ การมีอยู่ของเขาจะสร้างอิทธิพลได้มาก”
1. จู๊ด เบลลิงแฮม (ดอร์ทมุนด์ ไป เรอัล มาดริด)
ไม่ปล่อยให้สื่อได้เล่นข่าวยาวยืด หรือปล่อยให้แฟนๆ ลุ้นกันว่าเมื่อไหร่จะมา เมื่อไหร่จะได้ เพราะ เรอัล มาดริด เช็คบิลปิดดีลคว้า จู๊ด เบลลิงแฮม ได้ตั้งแต่ต้นเดือน มิ.ย. หรือหลังจากซีซั่นเก่าจบลงแค่ราวๆ 1 สัปดาห์เท่านั้น
อาจมีเสียงหัวเราะเย้ยหยัน “อะไรมันจะขนาดนั้น” เกิดขึ้นกับ เบอร์มิงแฮม ซิตี้ ในตอนที่พวกเขาประกาศรีไทร์เสื้อเบอร์ 22 ที่เคยเป็นของเด็กปั้นที่เพิ่งขึ้นชุดใหญ่ได้ปีเดียวอย่าง เบลลิงแฮม ให้ขึ้นหิ้งไป เป็นเสื้อประวัติศาสตร์ที่จะไม่มีใครได้ใส่อีกแล้ว
แต่หลังจาก 3 ปีกับ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ผ่านไป ทุกคนก็เข้าใจแล้วว่า เบลลิงแฮม พิเศษขนาดไหน
- 2020/21 ลงสนาม 46 นัด ซัด 4 ประตู
2021/22 ลงสนาม 44 นัด ซัด 6 ประตู
2022/23 ลงสนาม 42 นัด ซัด 14 ประตู
ซีซั่นที่แล้ว ดอร์ทมุนด์ พลาดแชมป์เอาในโค้งสุดท้ายที่ เบลลิงแฮม ล้มเจ็บ แต่แม้กระนั้นเขาก็ยังได้รับรางวัลแข้งแห่งปีลีกเมืองเบียร์ VDV Bundesliga Player of the Season ไปครอง
และในขณะที่มีการมองว่า ดาวรุ่งวัย 20 (ใช่ เบลลิงแฮม เพิ่งยี่สิบ!) อย่างเขา จะแบกรับแรงกดดันต่อค่าตัวมหาโหด 103+30 ล้านยูโร ได้ขนาดไหน…
เบลลิงแฮม ก็จัดให้แล้ว 4 ประตูจาก 3 เกมแรกที่เล่นเกม ลา ลีกา กับ เรอัล มาดริด
- ชนะ แอธเลติก บิลเบา 2-0 : ซัดเม็ดปิดกล่อง
ชนะ อัลเมเรีย 3-1 : ยิงคนเดียว 2 ตุง
ชนะ เซลต้า บีโก้ 1-0 : เจ้าของประตูโทน
เมื่อยิงเอาๆ ขนาดนี้ จึงมีรายงานล่าสุดว่า ภายหลัง วินิซิอุส จูเนียร์ ล้มเจ็บไปและจะพลาดช่วยทีมสักระยะ คนที่จะถูก คาร์โล อันเชล็อตติ ดันขึ้นไปยืนกองหน้าคู่กับ โรดรีโก้ โกเอส ก็ไม่ใช่ใครอื่น
ถูกต้อง… จู๊ด เบลลิงแฮม
โรมาโน่ ลงความเห็น : “จนถึงตอนนี้ นี่คือการเซ็นสัญญาแห่งปี มันอาจฟังดูไม่ค่อยน่าเชื่อหู ที่ จู๊ด เบลลิงแฮม อายุเพิ่งจะแค่ 20 และผลกระทบที่เขาสร้างใน ลา ลีกา มันน่าประทับใจเอามากๆ”
“นี่คือสตาร์อย่างแท้จริงที่มีศักยภาพฝีเท้าล้นเหลือ การจ่าย 103 ล้านยูโรไม่รวมแอดออนส์คือผลงานชิ้นโบว์แดงของ เรอัล มาดริด เพราะแน่นอนว่าทีมชั้นนำของยุโรปหลายสโมสรมากต่างก็ต้องการตัวเขา”
“เรอัล มาดริด ไม่ได้คว้าเขามาอย่างง่ายๆ แต่นี่จะกลายเป็นดีลที่ยิ่งใหญ่ในท้ายที่สุด”