Infinix Thailand เปิดตัวมือถือรุ่นใหม่ที่มีชื่อว่า Infinix Hot 10 Play ที่มีการปรับปรุงในเรื่องการออกแบบ และสเปกพร้อมกับมาในราคาคุ้มค่าระหว่างช่วง 2,899 – 3,599 บาทด้วยกัน พร้อมจำหน่าย 31 มีนาคม นี้ มาดูกันว่าสัมผัสแรกของมือถือรุ่นนี้จะเป็นอย่างไร
แรกเห็นรูปลักษณ์
สิ่งแรกที่ได้เห็นคือ หน้าจอ ของ Infinix Hot 10 Play ที่เป็นแบบ Water Notch พร้อมกับกล้อความละเอียด 8 ล้านพิกเซล หน้าจอ IPS LCD ขนาด 6.82 นิ้วความละเอียด HD+ ส่วนลำโพงตัวเครื่องจะอยู่ด้านบนสุดเพียงตำแหน่งเดียว
รอบตัวเครื่องทั้งหมดเป็นวัสดุ โพลี่คาร์บอนเนตขึ้นรูปสวยงาม มาพร้อมกับฝั่งข้ายเป็นช่องใส่ซิมการ์ดรองรับ Nano SIM ทั้งหมด 2 ช่อง, MicroSD 1 ช่อง, ฝั่งขวามีปุ่มเพิ่มลดระดับเสียงและปุ่ม เปิด / ปิดเครื่อง, ส่วนล่างมีช่องเสียบหูฟัง 3.5 มิลลิเมตร, ช่องเสียบ microUSB, ไมโครโฟน
ด้านหลังจะมีลายสี่เหลี่ยมขยายส่วน พร้อมกับมีกล้องด้านบนทั้งหมด 2 ตัวและมีคำว่า AI Dual Camera พร้อมกับโลโก้ Infinix และมีให้เลือกทั้งหมด 4 สีได้แก่ Aegean Blue, Morandi Green, Obsidian Black, 7 Degree Purple
ลูกเล่นที่โดดเด่น พร้อมรายละเอียดสเปก
- ขนาด: 171.8 x 78 x 8.9 มิลลิเมตร
- หนัก: 207 กรัม
- หน้าจอแสดงผล : IPS LCD Display ความละเอียด HD+ (1640×720 พิกเซล) ขนาดประมาณ 6.82 นิ้ว
- ชิปเซ็ต : MediaTek Heilo G25 / G35 | GPU Mali-G52 MC2
- RAM : 2 GB (คู่กับ CPU MediaTek Heilo G25) และ 4GB (คู่กับ CPU MediaTek Heilo G35)
- ROM : 32 GB (คู่กับ CPU MediaTek Heilo G25) และ 64GB (คู่กับ CPU MediaTek Heilo G35)
- ความจำเสริม : Micro SD
- ระบบปฏิบัติการ: Android 10 Android
- WiFi 802.11 B/G/N/AC (Dual Band)
- Bluetooth 4.2
- เครือข่ายมือถือ : 2G/3G/4G
- กล้องหลังมีทั้งหมด 2 ตัว
- ความละเอียด 13 ล้านพิกเซล F2.2
- ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล Depth Sensor
- กล้องหน้าเซลฟี่ : ความละเอียดกล้องหลัก: 8 ล้านพิกเซล
- รองรับ : nano SIM Dual SIM + Micro SD
- ช่องเสียบ : หูฟัง 3.5 mm. และ MicroUSB
- แบตเตอรี่ : Li-Po 6000 mAh
- สี : Aegean Blue, Morandi Green, Obsidian Black, 7 Degree Purple
ภาพรวมของสเปกอาจจะไม่ได้แตกต่างจากมือถือในกลุ่มของ Mid Range สักเท่าไหร่ แต่ก็ยัง แต่สิ่งที่แปลกใจคือมือถือรุ่นนี้สามารถเชื่อมต่อกับเครือข่าย Wi-Fi 5GHz ได้ถือว่าโดดเด่นอย่างมาก
ระบบปฏิบัติการของมือถือรุ่นนี้มีการใช้ XOS 7.0 พื้นฐานจาก Android 10 ที่มีการปรับปรุงให้ Application ลงตัวมากขึ้น และเรื่องการอัปเกรดสามารถทำได้แต่ยังไม่ระบุว่าได้ถึงเวอร์ชั่นไหน นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์ในเรื่องของ Power Marathon ช่วยยืดอายุการใช้งานแบตเตอรี่ได้อีก 4 ชั่วโมง ปรับเปลี่ยนบางอย่างที่ไม่จำเป็นเท่านั้นเอง
นอกจากนี้แบตเตอรี่มีขนาดใหญ่ถึง 6000 mAh ใช้งานได้นานสุด 5 วัน และมีกล้องหลัง 2 ตัวความละเอียด 13 + 2 ล้านพิกเซล และกล้องหน้าความละเอียด 8 ล้านพิกเซล มีเทคโนโลยี AI Cam เก็บรายละเอียดของภาพได้ดี แถมถ่ายวิดีโอได้ความละเอียด 1080p แบบ 30 FPS, Slowmotion มาให้
รวบรัดตัดความกับราคาของ Infinix Hot 10 Play
เป็นมือถือรุ่นเริ่มต้นที่มีหน้าจอใหญ่ แบตเตอรี่ก้อนใหญ่ สเปกที่ลงตัวมากขึ้นจนเรียกได้ว่าเป็นอีกรุ่หนึ่งที่มีความโดดเด่นในเรื่องสเปกที่จัดจ้านอย่างมากเลยครับ กับราคาของเครื่องที่อยู่ประมาณ ไม่เกิน 4,000 บาท นี่เป็นอีกรุ่นที่น่าจะเป็นตัวเลือกที่เข้าใกล้ได้มากที่สุด
สำหรับราคาของ Infinix Hot 10 Plat มีให้เลือกทั้งหมด 2 รุ่นได้แก่
- ขุมพลัง MediaTek Heilo G25 RAM 2GB / ROM 32GB = 2,899 บาท
- ขุมพลัง MediaTek Heilo G35 RAM 4GB / ROM 64GB = 3,599 บาท
โดยมือถือรุ่นนี้พร้อมจำหน่ายอย่างเป็นทางการ 31 มีนาคมนี้ และจะเริมวางจำหน่ายอย่างเป็นทุกช่องทางครับ