ในปี 2018 สหภาพยุโรปโจมตี Google ด้วยค่าปรับ 4.34 พันล้านยูโร (ประมาณ 169,842 ล้านบาท) สำหรับการละเมิดการผูกขาดของ Google โดยเกี่ยวข้องกับวิธีที่ Google กำหนดให้ผู้ผลิตอุปกรณ์ Android ต้องติดตั้ง search engine และเบราว์เซอร์ Chrome จากในโรงงานไว้ล่วงหน้า ซึ่งการกระทำดังกล่าวเป็นการยับยั้งการแข่งขัน ส่งผลให้การพัฒนานวัตกรรมหยุดชะงักลง

สำนักข่าว Bloomberg ระบุว่า Google พยายามจะไม่จ่ายค่าปรับ โดย Google แก้ต่างกับศาลทั่วไปของสหภาพยุโรปว่า เป็นเพราะ search engine ของ Google ได้รับความนิยมอย่างมาก พร้อมแนบหลักฐานที่ระบุว่า คำที่ถูกค้นหามากที่สุดใน Bing (search engine ของ microsoft) คือคำว่า “Google”

การแนบหลักฐานดังกล่าวเป็นการโน้มน้าวว่า ค้นส่วนใหญ่ใช้ Bing เพียงเพราะเป็นเครื่องมือค้นหาเริ่มต้นสำหรับเบราว์เซอร์ Edge ที่ติดตั้งไว้ล่วงหน้าใน Windows และพวกเขาต้องการค้นหาวิธีการเปลี่ยนไปใช้ Google ทันที

ผู้คนใช้ Google เพราะพวกเขาเลือกที่จะใช้ ไม่ใช้เพราะพวกเขาถูกบังคับใช้ ส่วนแบ่งการตลาดของ Google ในเครื่องมือค้นหานั้นคงที่สังเกตจากแบบสำรวจผู้บริโภคที่สูงถึง 95% ที่ต้องการใช้ Google แทนที่จะใช้เครื่องมือค้นหาของคู่แข่ง

อ้างอิงจากข้อมูลของ StatCounter พบว่า Google มีส่วนแบ่งการตลาด search engine สูงถึง 92% ในขณะที่ Bing ที่เป็นอันดับสองมีส่วนแบ่งการตลาดเพียงแค่ 2.66% เท่านั้น