"Frog Boys" คดีปริศนาดังในตำนาน กลุ่มเด็กชาย 5 คนที่หายตัวบนภูเขา ก่อนพบจุดจบอย่างน่าเศร้า

Home » "Frog Boys" คดีปริศนาดังในตำนาน กลุ่มเด็กชาย 5 คนที่หายตัวบนภูเขา ก่อนพบจุดจบอย่างน่าเศร้า
"Frog Boys" คดีปริศนาดังในตำนาน กลุ่มเด็กชาย 5 คนที่หายตัวบนภูเขา ก่อนพบจุดจบอย่างน่าเศร้า

พาย้อนไปดูคดีสุดเศร้าระดับชาติของเกาหลีใต้ นั่นก็คือ “Frog Boys” หรือ กลุ่มเด็กชายจับกบ ซึ่งเป็นปริศนาฆาตกรรมเด็กชาย 5 คนที่ไปจับกบบนภูเขา ซึ่งเหตุการณ์นี้แม้จะผ่านมา 34 ปีแล้ว แต่ก็เป็นอีกหนึ่งคดีที่หดหู่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของประเทศเลยก็ว่าได้ และยังคงถูกหยิบมาพูดถึงอยู่บ่อยครั้ง เกิดอะไรขึ้นกับเด็กๆทั้ง 5 คน และใครกันแน่ที่คือคนร้าย?

ณ เมืองแทกู ประเทศเกาหลีใต้ วันที่ 26 มีนาคม ค.ศ. 1991 ซึ่งเป็นวันหยุดที่ตรงกับวันเลือกตั้งครั้งสำคัญของเมือง กลุ่มเด็กชาย 5 คน ได้แก่ คิมจงซิก (10 ปี), คิมยองกยู (12 ปี), อูช็อลวอน (14 ปี), โชโฮยอน (13 ปี) และ พัคชานอิน (11 ปี) เด็กชายทั้ง 5 คนมีบ้านอยู่ละแวกเดียวกัน จึงทำให้สนิทสนมกันมาก ในช่วงวันหยุดก็มักออกไปเล่นกันตามประสาเด็ก วันนี้ก็เช่นกัน พวกเขาได้ชวนกันไปจับกบและเล่นบนภูเขาวารยอง ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากบ้าน ก่อนจะไม่ได้กลับมาสู่อ้อมอกพ่อแม่อีก
oysphonecardเด็กชายทั้ง 5 คนหายตัวไป จุดสุดท้ายที่มีคนเห็นเด็กๆ คือบริเวณปากทางขึ้นภูเขาวารยอง การหายตัวไปของเด็กๆ กลายเป็นวาระแห่งชาติทันที ถึงขั้นที่ โนแทอุน ประธานาธิบดีของเกาหลีใต้ในยุคนั้น สั่งระดมพลเจ้าหน้าที่และทหารกว่า 3 แสนคนเพื่อตามหาทั่วประเทศ แจกใบปลิวกว่า 8 ล้านแผ่น รวมถึงการแปะประกาศตามผลิตภัณฑ์หรือสินค้าต่างๆ ซึ่งตลอดการหาได้มีการแจ้งเบาะแสเข้ามามากกว่า 500 ครั้ง แต่ส่วนใหญ่จะเป็นสายที่ปลุกปั่นสถานการณ์ บางคนก็สร้างเรื่องว่าจับเด็กไปเพื่อเรียกค่าไถ่ แต่ก็ไม่มีเรื่องใดที่เป็นความจริงเลย
bankหลังจากตามหาเท่าไรก็ไม่เจอ ในที่สุดจึงยุติการค้นหาเด็กชายทั้ง 5 คน จนกลายเป็นคดีปริศนาที่ยังค้างคาในใจของคนเกาหลีใต้ทั้งชาติ แต่เมื่อเวลาล่วงเลยผ่านไปกว่า 11 ปี เมื่อวันที่ 26 กันยายน ค.ศ. 2002 ทางการก็ได้รับเบาะแสจากชาวบ้าน 2 คนที่ไม่ขอระบุชื่อ ว่าพวกเขาได้ขึ้นไปเก็บลูกโอ๊กบนภูเขาวารยอง ก่อนจะพบเสื้อผ้า, รองเท้า และโครงกระดูกมนุษย์อยู่บริเวณต้นโอ๊ก ซึ่งเมื่อได้เข้าไปตรวจสอบแล้วก็พบว่าทั้งหมดนั้นเป็นเด็กทั้ง 5 คนที่หายไปจริงๆ ทั้งเสื้อผ้าที่ใส่, เหล็กดัดฟัน สิ่งของทุกอย่างนั้นตรงกันหมด  
frog-boys-4หลังจากพบศพของเด็กทั้ง 5 คนแล้ว ขั้นตอนต่อไปก็คือ การหาสาเหตุของการตาย ซึ่งยังคงเป็นปริศนาและสร้างความน่าสงสัยอย่างมาก เพราะว่าบริเวณพบศพนั้นอยู่ห่างจากบ้านของเด็กๆเพียง 3.5 กิโลเมตร อีกทั้งยังห่างจากถนนที่ผู้คนใช้สัญจรไม่ถึง 100 เมตรด้วยซ้ำ ซากศพก็ถูกฝังไม่ลึกมาก แถมบริเวณนี้ก็เป็นพื้นที่ที่เจ้าหน้าที่เคยออกตามหามาก่อน แต่ทำไมตอนนั้นกลับไม่เจออะไรเลย?

นอกจากนี้ สภาพศพที่เจอก็ทำให้น่าฉงนมากขึ้นไปอีก เนื่องจากเด็กๆอยู่ในสภาพที่กอดกันเสียชีวิต ซึ่งในตอนแรกเจ้าหน้าที่ได้ตั้งสมมติฐานว่า เพราะว่าช่วงนั้นเริ่มเข้าสู่ฤดูหนาว เด็กๆจึงน่าจะกอดกันและหนาวตาย แต่นั่นก็ดูไม่สมเหตุสมผลเท่าไร เพราะอากาศในวันนั้นอยู่ที่ราว 5 องศา ซึ่งถือเป็นอุณหภูมิทั่วไปของเกาหลีใต้ และถ้าเด็กๆหนาวจริงทำไมถึงไม่พากันกลับบ้าน? อีกทั้งสภาพศพที่เจอก็คือ เด็กๆไม่ได้ใส่อะไรเลย เสื้อผ้าของบางคนถูกมัดเป็นปม นอกจากนี้ยังพบกระสุน 3 นัดที่เสื้อผ้าของ ยองกยู อีกด้วย ทำให้เบื้องต้นสรุปได้ว่านี่อาจเป็นการฆาตกรรม
131295850ข้อสงสัยเริ่มถูกตั้งขึ้นจากสังคม การเสียชีวิตของเด็กทั้ง 5 คนนั้นอาจเกี่ยวข้องกับทหารก็เป็นได้ เพราะว่าบริเวณที่พบศพนั้นอยู่ใกล้กับหน่วยฝึกยิงปืนของทหารแค่เพียง 100-200 เมตร แต่หลักฐานก็ยังไม่เพียงพอที่จะสรุปความได้ เพราะอย่างที่บอกไปว่าเหตุการณ์ในวันนั้นตรงกับวันหยุดเลือกตั้ง จึงทำให้เหล่าทหารกลับบ้านกันหมดและไม่ได้มีการฝึกยิงปืนเกิดขึ้น นอกจากจะเป็นทหารสัญญาบัตรที่สามารถเข้า-ออกกรมและทำการฝึกซ้อมด้วยตัวเองได้ในวันหยุด แต่ท้ายที่สุดแล้วก็ยังไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นฝีมือของทหารนายไหน และทางหน่วยทหารเองก็ได้ออกมาปฏิเสธและยืนยันว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการตายของเด็กทั้ง 5 คนแต่อย่างใด

อย่างไรก็ตาม นักนิติวิทยาศาสตร์ ได้ตรวจกระดูกและพบว่า บริเวณกระโหลกของเด็กชายนั้นมีรูคล้ายกับกระสุนปืนจริงๆ แต่ในขณะเดียวกันก็มีรอยคล้ายถูกของมีคมเช่นกัน และเมื่อดูจากบาดแผลแล้ว คนร้ายน่าจะมีแค่คนเดียว แต่ถึงอย่างไรก็ยังไม่สามารถระบุถึงสาเหตุการตายได้อย่างแน่ชัด ส่วนหนึ่งเป็นเพราะว่า การทำงานที่ไม่เป็นมืออาชีพของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ได้เข้ารักษาพื้นที่ในตอนแรก อีกทั้งยังมีการเก็บกระดูกศพที่ไม่ถูกหลักนิติวิทยาศาสตร์เท่าไรนัก จึงเพิ่มความยุ่งยากในการตรวจสอบมากขึ้นไปอีก ซึ่งประเด็นนี้ทางตำรวจเองก็ถูกฟ้องร้องด้วย
llท้ายที่สุดคดีนี้ก็ได้หมดอายุความไปเมื่อปี 2006 และจนถึงตอนนี้เหตุการณ์ก็ได้ล่วงเลยมาเป็นเวลา 34 ปีแล้ว แต่ก็ยังไม่สามารถจับตัวคนร้ายได้ การตายของของเด็กชายทั้ง 5 คนก็ยังคงเป็นปริศนา และชาวเกาหลีใต้หลายคนยังไม่ลืม แต่นั่นก็ไม่อาจเทียบเท่ากับความเจ็บปวดของพ่อแม่ของเด็กๆทั้ง 5 คน ที่ยังคงรู้สึกเสียใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น และยังคงเฝ้ารอความจริงเปิดเผยว่าใครคือคนฆ่าลูกชายของพวกเขา

“ถึงลูกชายสุดที่รักที่พวกเราคิดถึงที่สุด ช็อลวอน, โฮยอน, ยองกยู, ชานอิน และ จงซิก พวกเราคิดถึงพวกเธอมากๆ มันมีประโยคที่เรามักพูดกันว่า เวลาที่พ่อแม่ของคุณตาย คุณจะฝังพวกเขาลงพื้นดิน แต่เวลาที่ลูกของคุณตาย คุณจะฝังเขาไว้ในหัวใจ”
131295852“ผมคิดว่าผมจะสามารถลืมได้ หลังจากที่เขาได้กลายเป็นผุยผงไปแล้ว แต่ตอนนี้ยิ่งเวลาผ่านไปเท่าไร ผมกลับยิ่งคิดถึงลูกชายมากขึ้นทุกวัน” อูจองอู คุณพ่อของ อูช็อลวอน กล่าว

คดีนี้ถูกหยิบมาทำภาพยนตร์ถึง 2 เรื่อง ได้แก่ “Come Back, Frog Boys” หรือ 돌아오라 개구리 소년 (1992) และ Children หรือ 아이들 (2011)
mv5bm2m0mdkynmitnmnkyy00ntu3l

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ