FootNote:ความต้องการ ‘ประยุทธ์’ อยู่ยาวกับสถานการณ์ #แพงทั้งแผ่นดิน
สถานการณ์ #แพงทั้งแผ่นดิน กำลังเป็นเสียงเตือนอันทรงความหมายยิ่งในทางการเมือง ไม่ว่าจะต่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ไม่ว่าจะต่อ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ
เป้าหมายหลักของการยืนยันที่จะดำรงอยู่ในสถานะแห่งรัฐบาล จนครบวาระในเดือนมีนาคม 2566 ก็เพื่อสร้างผลงาน
หวังเอา ‘ผลงาน’ และ ‘ความสำเร็จ’ มาเป็นใบเบิกทาง เพื่อเป็นรากฐานแห่งคะแนนนิยมต่อพรรคพลังประชารัฐ ต่อพรรคประชาธิปัตย์ ต่อพรรคภูมิใจไทย
สร้างความมั่นใจให้การสืบทอดอำนาจทางการเมืองของคสช.ผ่าน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา มีความหนักแน่น มั่นคงและมีความ ชอบธรรมเป็นอย่างสูง
แต่แล้วสถานการณ์ #แพงทั้งแผ่นดิน ก็กระหน่ำซัดเข้ามาโดยรอบ เหมือนกับพรรคประชาธิปัตย์ จะแบกหนักเพราะรับผิดชอบโดยตรงกระทรวงเกษตรและสหกรณ์รวมถึงกระทรวงพาณิชย์
แต่ในที่สุดมรสุมนี้ก็รวมศูนย์ไปยัง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ไปยัง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ อย่างยากจะปัดปฏิเสธได้
ต้องยอมรับว่าสถานการณ์ #แพงทั้งแผ่นดิน สะท้อนเห็นทั้งจุดอ่อนด้อยโดยตรงของพรรคประชาธิปัตย์ เมื่อรับผิดชอบบริหารกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ รับผิดชอบบริหารกระทรวงพาณิชย์
แต่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะลอยตัวพ้นไปจากความรับผิดชอบได้หรือเมื่อเป็น ‘นายกรัฐมนตรี’
หากความรับผิดชอบตกอยู่บนบ่าของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เช่นนี้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ในฐานะรองนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐจะตุ๊ต๊ะต้วมเตี้ยมอยู่ได้อย่างไร
สถานการณ์ #แพงทั้งแผ่นดิน จะยิ่งหนักหนาสาหัส เป็นทบเท่าทวีคูณ หากการบริหารจัดการต่อการแพร่ระบาดของโควิดระลอกที่ 5 ยิ่งบานปลายกระหน่ำซ้ำเข้ามาอีก
ความหวังที่จะสร้าง ‘ผลงาน’ และ ‘ความสำเร็จ’ จึงกลับกลายเป็นปัญหา สร้างภาระอันหนักหน่วง และที่ประชาชนไม่เกิดความหวังขึ้นมาแม้แต่น้อย
กลับกลายเป็นความหวังไปอยู่ที่พรรคเพื่อไทย พรรคก้าวไกล
กลับกลายเป็นความสำเร็จของ นายทักษิณ ชินวัตร ประสาน เข้ากับความมุ่งมั่นของ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ส่องสว่างมากกว่า
มากกว่ากระทั่งกลบทับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในที่สุด