FootNote:การดำรงอยู่ ประวิตร ประยุทธ์ ภายใต้บทบาทแห่ง “ตัวแทน”

ท่ามกลางข่าวลือ ท่ามกลางกระแสและความคาดหมายอันเกิดขึ้น และดำรงอยู่ภายหลังสถานการณ์ต่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นับแต่วันที่ 24 สิงหาคม

ทุกสายตาทอดจับไปยัง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ และการ เคลื่อนไหวที่ “บ้านป่ารอยต่อ”

เท่ากับยอมรับว่า “ศูนย์กลาง” แห่ง “อำนาจ” ได้แปรเปลี่ยน

ขณะเดียวกัน ทุกสายตาที่ทอดมองไปยังแต่ละจังหวะก้าวจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ก็นำไปสู่การตีความในทางความคิดในทางการเมืองตามมา

เห็นได้จากรูปธรรมแห่งความพยายามที่จะยืนยันสถานะ และการดำรงอยู่ในตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม โดยยังปรากฎท่วงทำนองในแบบนายกรัฐมนตรีอย่างเด่นชัด

เพียงแต่ “อำนาจ” ที่เคยมีในฐานะนายกรัฐมนตรีมิได้ดำรงคงอยู่เพียงแต่คนเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เคยดำรงอยู่ในตำแหน่งนายกรัฐมนตรีมาก่อน

คำถามจึงมิได้แต่ต่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมเท่านั้น

หากแต่ยังถามถึง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ อย่างสำคัญ

มีความคาดหวังเป็นอย่างมากว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ จะฉวยโอกาสสร้างความแตกต่างไปจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในเชิงเปรียบเทียบ

ทั้งๆที่ไม่ยากเลยหากคำนึงถึงภูมิหลังของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ในสถานะ “พี่ใหญ่” แห่ง “บูรพาพยัคฆ์”

กระนั้น เมื่อติดตามบทบาทและแต่ละการตัดสินใจของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ก็จะสัมผัสได้ในความพยายามที่จะประนอมประโยชน์ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เด่นชัด

จุดสำคัญที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ มิอาจปิดบังซ่อนเร้น ได้เห็นได้จากความพร้อมอย่างเต็มเปี่ยมที่จะดำรงอยู่ในตำแหน่งนายกรัฐมนตรี แม้จะเป็นการรักษาราชการก็ตาม

เวลา 1 เดือนของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ จึงเป็นเวลาที่จะแสดงฝีมือว่ามีความเหมาะสมต่อตำแหน่งนี้มากน้อยเพียงใด

ในความตั้งใจที่จะทำงานสานต่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ แม้จะดำเนินไปในลักษณะ “ชั่วคราว” แต่ก็ทรงความหมายเป็นอย่างสูง

ในที่สุดแล้วก็เท่ากับยืนยันถึง “โครงสร้าง” แห่งอำนาจ “รัฐ”

ไม่ว่านายกรัฐมนตรีจะเป็น พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ไม่ว่านายกรัฐมนตรีจะเป็น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ก็คือ “ตัวแทน”

เป็นตัวแทนแห่งการดำรง “โครงสร้าง” แห่ง “อำนาจ” เป็นหลัก