FootNote อ่านกลยุทธ์ “ภายใน” พลังประชารัฐ  ผ่าน 3 รัฐมนตรี ผู้อำนวยการเลือกตั้ง

Home » FootNote อ่านกลยุทธ์ “ภายใน” พลังประชารัฐ  ผ่าน 3 รัฐมนตรี ผู้อำนวยการเลือกตั้ง


FootNote อ่านกลยุทธ์ “ภายใน” พลังประชารัฐ  ผ่าน 3 รัฐมนตรี ผู้อำนวยการเลือกตั้ง

FootNote อ่านกลยุทธ์ “ภายใน” พลังประชารัฐ ผ่าน 3 รัฐมนตรี ผู้อำนวยการเลือกตั้ง

ไม่ว่าข้อเสนอว่าด้วยการแต่งตั้ง นายสันติ พร้อมพัฒน์ นายสุชาติ ชมกลิ่น นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ ดำรงตำแหน่งเป็น”ผู้อำนวย การเลือกตั้ง”จะมาจากสมองก้อนโตของใคร

ก็ต้องยอมรับว่าข้อเสนอนี้เกิดขึ้นและดำรงอยู่ในลักษณะอันสะ ท้อน “กลยุทธ์” ทางการเมืองอย่างแหลมคม

ด้านหนึ่ง หากมองจากสถานะที่ 3 คนนี้เป็น 3 ใน”6 รัฐมนตรี”ที่เคยร่วมตบเท้าเข้าพบ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อันนำมาซึ่งปฏิ บัติการรุกภายในพรรคพลังประชารัฐก็เท่ากับเป็นการแยกจำแนก

ขณะเดียวกัน ด้านหนึ่ง มิได้แยกจำแนกออกจากกลุ่มที่กุมอำนาจภายในพรรคที่นำโดย ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า หากแต่ยังแยก จำแนกออกมาจากบางกลุ่มภายใน”6 รัฐมนตรีด้วย”

การแต่งตั้งผู้อำนวยการ 3 คนจาก”6 รัฐมนตรี”จึงเหมือนกับสะ ท้อนการประสานและร่วมมือกันภายในพรรคพลังประชารัฐ

พร้อมกันนั้น ยังเท่ากับเป็นตรวจสอบศักยภาพทางการเมืองของ 3 รัฐมนตรีที่จะอำนวยประโยชน์และผลักดันผลการเลือกตั้งซ่อมให้เป็นไปในทิศทางอันเป็นคุณต่อพรรคพลังประชารัฐ

ความน่าสนใจอันยิ่งยวดก็คือ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า มีบทบาทสูง เป็นอย่างสูงยิ่งในการเสนอชื่อ นายสันติ พร้อมพัฒน์ นายสุชาติ ชม กลิ่น นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ เข้าเป็นผู้อำนวยการ

มติของพรรคพลังประชารัฐปรากฏออกมาพร้อมกับสำทับจาก พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หนักแน่นว่า”แพ้ไม่ได้”

นั่นหมายถึงยุทธศาสตร์ที่ 3 ผู้อำนวยการเลือกตั้งไม่ว่าจะเป็น เขต 1 ชุมพร ไม่ว่าจะเป็น เขต 6 สงขลา ไม่ว่าจะเป็น เขต 9 จตุจักร หลักสี่ คือต้องกำชัยชนะสถานเดียว

นี่ย่อมเป็นการวัดและประเมินคะแนนและความนิยมของพรรค พลังประชารัฐประสานกับพลังของ 3 ผู้อำนวยการเลือกตั้ง

ที่สำคัญก็คือ ประสานและให้ความร่วมมือแค่ไหน เพียงใด

ภาพที่ปรากฏก็ดำเนินไปเหมือนกับกรณีการเลือกตั้งซ่อมที่ เขต 4 นครศรีธรรมราช ซึ่งมี นายอนุชา นาคาศัย เป็นผู้อำนวยการเลือกตั้ง

นั่นก็คือ บทบาทของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ทั้งในด้าน”เปิด”และในด้าน”ลับ”

ทุกก้าวย่างของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ล้วนปรากฏเงา ร่างของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ดำรงอยู่

2 คนนี้ต่างหากคือผู้กุมทิศทาง”พลังประชารัฐ”อย่างแท้จริง

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ