FootNote บทบาท ชลน่าน ศรีแก้ว เด่น ในฐานะ แม่ทัพใหญ่ ฝ่ายค้าน
ไม่ว่าจะมองผ่านการเคลื่อนไหวของ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ไม่ว่าจะมองผ่านการเคลื่อนไหวของ นายสุทิน คลังแสง ภาพแห่ง”เด็ดหัว นั่งร้าน”ก็เริ่มมีความแจ่มชัด
เป็นความแจ่มชัดในการกำหนด ”หัว” อันประกอบด้วย”3 ป.” เป็นเป้าหมายในทาง”ยุทธศาสตร์”
ขณะเดียวกัน ก็อาศัยการเจาะทะลวงเข้าไปยังรัฐมนตรีแต่ละคนทั้งจากพรรคพลังประชารัฐ จากพรรคภูมิใจไทย จากพรรค ประชาธิปัตย์ ในลักษณะเสือทะลายห้าง
อาจกล่าวได้ว่า การอภิปราย 9 รัฐมนตรีก็เพื่อเน้นและรวม ศูนย์การเปิดโปงและโจมตีไปยังกระบวนการทำงานของ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา
ไม่เพียงแต่ในห้วงที่เป็นนายกรัฐมนตรีหลังการเลือกตั้งเมื่อ เดือนมีนาคม 2562 หากแต่ย้อนหวนทวนไปไกลถึงหลังรัฐประ หารเมื่อเดือนพฤษภาคม 2557
ภายใต้ญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจครั้ง
นี้จึงเท่ากับเป็นการรวมศูนย์กำลังครั้งใหญ่ของพรรคร่วมฝ่ายค้านเพื่อปัก”แผล”ให้กับรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
คำถามอยู่ที่ว่า นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว นายสุทิน คลังแสง มีความเข้าใจต่อ”ระบอบประยุทธ์”ในทางเป็นจริงอย่างไร แค่ไหน
พลันที่ยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจ แม้เป้า หมายใหญ่คือปฏิบัติการเพื่อโค่นล้มรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์ โอชา บนพื้นฐานอันชอบธรรมแห่งรัฐธรรมนูญ
ชัยชนะจากร่างพรบ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2566 ยืนยันความเป็นจริงที่สำคัญ
นั่นก็คือ ด้วยมือของฝ่ายค้านที่มีอยู่ไม่สามารถ”โค่น” พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา และบรรดารัฐมนตรี”นั่งร้าน”อย่างแน่นอน ยุทธการนี้จึงเสมอเป็นเพียงยุทธการย่อย
ทำลายความชอบธรรม บ่อนเซาะไปยังจุดอ่อนและความบก พร่องจากการสมคบคิดตั้งแต่เมื่อเดือนมิถุนายน 2562 ว่าตกกระทบอย่างไรกับสังคมประเทศไทย
เป้าหมายอย่างแท้จริงอยู่ที่การเลือกตั้งใหญ่ในปี 2566
จังหวะก้าวที่ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ออกโรง ประสานเข้ากับการจัดระเบียบในการเคลื่อนกำลังโดย นายสุทิน คลังแสง ประธานวิปเด่นชัดยิ่งในความจัดเจร
เป็นความจัดเจนในแบบของ”นักสู้”ผู้มากด้วยประสบการณ์
อย่างน้อยก็ปิดช่องว่างรอยโหว่ซึ่งเกิดขึ้นในห้วงก่อนร่างพรบ.งบประมาณที่พรรคเพื่อไทยเคยแสดงบทบาทลงได้
เท่ากับไม่ยอมตกเป็น”เครื่องมือ”ในการต่อรองใดๆอีกแล้ว