FootNote สถานการณ์ อาทิตย์ 2 ดวง สถานะ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์
การเปรียบเทียบระหว่าง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา กับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ในเดือนสิงหาคม 2565 มากด้วยความแหลมคมอย่างยิ่งอยู่แล้ว
จากระยะที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อยู่ในห้วง “พักงาน” ขณะที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ อยู่ในห้วง “รักษาการ”
ไม่ว่าจะสัมผัสได้ในรากที่มาของคำ “ใจบันดาลแรง”
ไม่ว่าจะสัมผัสได้เมื่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อยู่ในแวดล้อมของผู้ภักดี ไม่ว่าจะสัมผัสได้เมื่อ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ อยู่ในแวดล้อมของผู้ภักดี
ยิ่งเมื่อมีการยุบสภาและเข้าสู่โหมดแห่งการหาเสียงเลือกตั้งก่อนวันที่ 14 พฤษภาคม ยิ่งมากด้วยความแหลมคม ก่อให้เกิดภาพและการเคลื่อนไหวในลักษณะเปรียบเทียบระหว่าง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ซึ่งเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีจากพรรครวมไทยสร้างชาติ กับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ จากพรรคพลังประชารัฐ
แต่พลันที่ผ่าน “การเลือกตั้ง” ภาพก็แปรเปลี่ยนจากระหว่าง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา กับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ มาเป็นภาพของ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ จากพรรคก้าวไกล
สถานะและการทะยานขึ้นมาของ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ มิได้ดำรงอยู่อย่างเลื่อนลอย ตรงกันข้าม มี 14 ล้านคะแนนเสียงเป็นพื้นฐานอันแข็งแกร่งและมั่นคง
มั่นคงยิ่งไม่ว่าจะต่อ 4 ล้านคะแนนเสียงของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หรือของพรรครวมไทยสร้างชาติ เมื่อ 14 ล้านเสียงผนวกรวมกับ 10 ล้านเสียงของพรรคเพื่อไทยและของพรรคประชาชาติ พรรคไทยสร้างไทย พรรคเพื่อไทรวมพลัง พรรคเสรีรวมไทย พรรคเป็นธรรม พรรคพลังสังคมใหม่
จึงยิ่งสร้างความชอบธรรมให้กับพรรคก้าวไกล ให้กับ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ นำไปสู่การลงนามใน “ข้อตกลงร่วม” (MOU) เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม การเปรียบเทียบระหว่าง นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ กับ พล.อ.
ประยุทธ์ จันทร์โอชา จึงดำเนินไปอย่างร้อนแรงและแหลมคม
ความน่าสนใจภายในกระบวนการแห่งการเปรียบเทียบจึงมิได้มีแต่เพียงใครเหมาะสมกับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีมากกว่ากันระ หว่างคนใหม่กับคนเก่า หากแต่อยู่ที่ “รากฐาน” แห่งการทะยานไปสู่ “อำนาจ”
นี่คือจุดแห่งการเปรียบเทียบที่มิได้มีแต่เพียงเรื่องของภาพลักษณ์อันเป็นปัจจัยภายนอก หากแต่ที่สำคัญเป็นอย่างสูงคือการเปรียบเทียบในเรื่อง “ความคิด”
ความคิดซึ่งเป็นคนละชุดระหว่าง นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ กับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
