FootNote ภาพใหม่ ศิริกัญญา ตันสกุล กับ ภาพใหม่ เศรษฐา ทวีสิน
ไม่ว่าการปราศรัยของ น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล แห่งพรรคก้าวไกล ไม่ว่าการปราศรัยของ นายเศรษฐา ทวีสิน แห่งพรรคเพื่อไทย ล้วนสะท้อนให้เห็น “พัฒนาการ”ในลักษณะ“ก้าวกระโดด”
น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล เมื่อแรกที่เป็นผู้อำนวยการด้านนโย บายของพรรคอนาคตใหม่ มีลักษณะแห่งความเป็น“นักวิชาการ”อย่างเด่นชัดและเต็มเปี่ยม
ไม่ว่าสีหน้า ไม่ว่าแววตา มีความนิ่ง ความสงบ และยืนอยู่บนแต่ละฐานข้อมูลอย่างเคร่งครัด มั่นใจ การยกไม้ยกมือประกอบก็ระมัดระวัง ไม่เหวี่ยงซ้ายป่ายขวา
ขณะเดียวกัน นายเศรษฐา ทวีสิน เมื่อแรกที่เดินทางเข้าพรรคเพื่อไทย ยอมรับการสวมเสื้อแจ็กเก็ต คำปราศรัยในแต่ละ ท่วงท่ามากด้วยความระมัดระวัง
แม้จะเผชิญกับการตอบโต้อย่างฉับพลันทันใดจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ก็พยายามตอบไปอย่างอ่อนน้อมถ่อมตัว หลีกเลี่ยงการปะทะ
ภาพแห่ง“นักธุรกิจ”ดำรงอยู่อย่างเป็นด้านหลัก ภาพแห่ง“นัก วิชาการ”ดำรงอยู่อย่างคมเข้ม ไม่หวั่นไหว วอกแวก
ถามว่ากระบวนท่าของ“ศิริกัญญา เศรษฐา”วันนี้เป็นเช่นใด
ใครที่ติดตามภาพของ น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล นับแต่ขึ้นเวทีที่นคร ศรีธรรมราช ตามมาด้วยที่กาญจนบุรี และล่าสุดเมื่อยืนอยู่บนเวที ที่ชลบุรี สัมผัสได้ในการเปลี่ยนแปลงอย่างชนิดหลังมือเป็นหน้ามือ
เป็นภาพของ “นิว ศิริกัญญา” เนื้อหายังคมเข้มไม่แปรเปลี่ยน แต่ที่แปรเปลี่ยนอย่างเห็นชัดคือความร้อนแรง เติมพริกเติมเกลือเข้าไปอย่างเหมาะสม
แพนจากภาพของ น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล ไปยังภาพของ นายเศรษฐา ทวีสิน ยิ่งสัมผัสได้ในการเปลี่ยนแปลง จากที่เคยพูดสั้นๆเริ่มยาวและมีลักษณะปักหลัก
ยิ่งการพูดบนเวทีเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร 33 คนจาก 33 เขตในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ยิ่งเด่นชัดว่า เป็น“นิว เศรษฐา”ที่พร้อมลุย
เป็นพัฒนาการ“ศิริกัญญา เศรษฐา”ในแบบ“ก้าวกระโดด”
ปัจจัยอะไรทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงจากพื้นฐานเดิมที่เป็น“นักวิชาการ”และที่เป็น“นักธุรกิจ”
คำตอบย่อมขึ้นอยู่กับ“สถานการณ์”และ“ความจำเป็น”
การพูดบนเวทีปราศรัยในทางการเมือง ต่างไปจากการบรรยายจากโพเดียมไม่ว่าในทางธุรกิจและในทางเศรษฐกิจ เป็น“การเมือง”ต่างหากที่ผลักดันอย่างเร่งรัดจนต้องเปลี่ยน
