FootNote:แรงสะเทือน ปริญญ์ พานิชภักดิ์ ตกกระทบ สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์

ความมั่นใจของ นายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ ที่ว่ากรณีอื้อฉาวจากพฤติกรรมของ นายปริญญ์ พานิชภักดิ์ จะไม่ส่งผลสะเทือนต่อคะแนนเสียงในการเลือกตั้ง “ผู้ว่าฯกทม.”

กำลังรอคอยการพิสูจน์ทราบจากความเป็นจริงในวันอาทิตย์ที่ 22 พฤษภาคม ด้วยความระทึกเป็นอย่างสูง

เนื่องจากสถานะของนายปริญญ์ พานิชภักดิ์ ไม่เพียงแต่เป็นรองหัวหน้าพรรค รับผิดชอบทางด้านเศรษฐกิจ หากแต่ยังดำรงอยู่ในตำแหน่ง “ผู้อำนวยการ” เลือกตั้ง “ผู้ว่าฯกทม.” พรรคประชาธิปัตย์

นั่นหมายความว่า ทุกจังหวะก้าวในการเคลื่อนไหว รณรงค์ เพื่อหาเสียงสร้างคะแนนและความนิยมไม่ว่าจะต่อ นายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ ไม่ว่าจะต่อผู้สมัครสก. 50 เขต

แม้จะเป็นการระดมมาจากสมองของคณะทำงานของพรรคประชาธิปัตย์ แต่ก็ดำเนินไปในลักษณะรวมศูนย์และอยู่ในความรับผิดชอบอย่างเต็มเปี่ยมของนายปริญญ์ พานิชภักดิ์

ความฉาวของ นายปริญญ์ พานิชภักดิ์ ก็ย่อมจะกระเซ็นกระทบต่อ นายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ อย่างไม่ต้องสงสัย

ต้องยอมรับว่าพรรคประชาธิปัตย์มีฐานเสียงเหนียวแน่นและมั่นคงเป็นอย่างมากในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ตั้งแต่ในยุคนายควง อภัยวงศ์ กระทั่งยุค นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ

เพียงแต่เมื่อถึงการเลือกตั้งเดือนมีนาคม 2562 พรรคประชาธิปัตย์ไม่ได้รับเลือกแม้แต่คนเดียวในสนามกรุงเทพมหานคร

นั่นก็เนื่องจากความขัดแย้งแตกแยกกัน “ภายใน”จากสถานการณ์ “ชัตดาวน์” เมื่อเดือนมกราคม 2557 ส่วนหนึ่งแยกไปอยู่ กับพรรคพลังประชารัฐ ส่วนหนึ่งแยกไปอยู่พรรครวมพลังประชาชาติ

อาจกล่าวได้ว่าเป็นผลสะเทือนในทางการเมืองและกลายเป็นปมให้ตั้งคำถามว่า จากกรณีของ นายปริญญ์ พานิชภักดิ์ จะกลาย

เป็น “รายจ่าย”ก้อนโตให้กับพรรคประชาธิปัตย์หรือไม่

กระแสการวิพากษ์วิจารณ์ที่เริ่มต้นจากพฤติการณ์ของ นายปริญญ์ พานิชภักดิ์ ดำเนินไปอย่างมีลักษณะขยายวงและพุ่งตรงเข้าไปใส่ตัวพรรคประชาธิปัตย์เร่งเร้าและรุนแรง

นั่นก็คือคำถามถึง นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรค

นั่นก็คือ คำถามถึงคะแนนและความนิยม นายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ ในห้วงแห่งการสร้างภาพและเชื่อเสียงก่อนเดือนพฤษภาคม

นี่ย่อมเป็นโจทย์ที่ “ทายาทไอน์สไตน์”จำเป็นต้องขบคิด