FootNote:แผ่นดินไหว จาก ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ส่งผลเศรษฐกิจไทย พลังประชารัฐ

จริงละหรือที่ผลการเลือกตั้ง “ผู้ว่าฯกทม.” ซึ่งชัยชนะเป็นของ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ไม่ส่งแรงสะเทือนใดๆ ต่อรัฐบาลต่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เลย

เมื่อมองเพียงเป็นการเลือกตั้งในระดับ “ท้องถิ่น” จึงเสมอเป็นเพียงจังหวัดจังหวัดหนึ่งใน 77 จังหวัดของประเทศ

ภายในสถานะแห่งความเป็นจังหวัดของกรุงเทพมหานคร ก็ดำรงไว้ในความแตกต่างอย่างเด่นชัด หากพิจารณาจากงบประมาณในปีงบประมาณ 2565 เป็นบรรทัดฐาน

จำเพาะงบประมาณที่เทลงไปใน 77 จังหวัดรวมแล้วเท่ากับ 2,510,898 ล้านบาททั่วประเทศ ในเรื่องอันเกี่ยวกับกรุงเทพมหานครได้ไป 1,704,116 ล้านบาท

ขณะที่อีก 76 จังหวัดงบประมาณรวมแล้วเท่ากับ 808,784 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนแล้วความหมายสะท้อนออกอย่างเด่นชัดว่า กรุงเทพมหานครยึดกุมเอาไว้มากถึง 2 ใน 3

ยิ่งคะแนนที่ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ได้มาเป็นจำนวนมากกว่า 1.3 ล้านคะแนนเสียง ยิ่งทำให้สถานะและน้ำหนักของ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ทรงความหมายเป็นอย่างสูง

เมื่อนำไปเทียบกับคะแนนของฝ่ายที่ใกล้ชิดอยู่กับรัฐบาล

ในความเป็นจริง ไม่ว่าจะมองผ่านคะแนน นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ไม่ว่าจะมองผ่านคะแนนของ ส.ก.จำนวน 50 คน จาก 50 เขตในพื้นที่กรุงเทพมหานคร

คะแนนของ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ นำโด่งเป็นยิ่งกว่าซูเปอร์ “แลนด์สไลด์” ในทางการเมือง

แม้จะเอาคะแนนของ นายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ ของ นายสกลธี ภัททิยกุล ของ พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ตลอดจนของ น.ส.รสนา โตสิตระกูล มาผนวกเป็นเนื้อเดียวกันก็ยังแพ้

เมื่อมองไปจำนวน ส.ก.ซึ่งพรรคเพื่อไทยได้ 20 พรรคเพื่อไทยได้ 14 พรรคประชาธิปัตย์ได้ 9 กลุ่มรักษ์กรุงเทพได้ 3 พรรคพลังประชารัฐได้ 2 พรรคไทยสร้างไทยได้ 2 ยิ่งชัดเจน

คะแนนจาก นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ คะแนนจาก ส.ก.สะท้อนถึงความเบื่อหน่ายต่อรัฐบาลต่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา

คล้อยหลังจากการเลือกตั้งเมื่อวันอาทิตย์ที่ 22 พฤษภาคม ก็เกิดการเคลื่อนไหวอย่างร้อนแรงภายในพรรคเศรษฐกิจไทย ซึ่งส่งแรงสะเทือนถึงพรรคพลังประชารัฐ

ถามว่าแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคพลังประชารัฐเป็นใคร

ถามว่าหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐเป็นใคร ถามว่าหัวหน้าพรรคเศรษฐกิจไทยเป็นใคร

ทั้งหมดนี้คือ “อาฟเตอร์ช็อก” จากนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์