FootNote:แผนกวาดล้าง ธุรกิจสีเทา จีน ผลสะเทือน ถึง “อดีต” รัฐมนตรี

เหมือนกับสถานการณ์อันเกิดการปะทะระหว่าง นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ กับ นายสันธนะ ประยูรรัตน์ ต่อกรณี “ธุรกิจสีเทา” ของจีน กำลังสร้างบทเด่นให้กับคนทั้งสอง

ในเมื่อ นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ เล่นบทรุกไล่ ขณะที่ นายสันธนะ ประยูรรัตน์ เล่นบทเตือนให้ระมัดระวัง

กระนั้น หากประเมินบทบาทของ นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ซึ่งออกโรงมาอย่างต่อเนื่อง ก็สัมผัสได้ในความมั่งมั่น เอาจริงเอาจัง และความหนักแน่นในด้านข้อมูล

ไล่เรียงให้เห็นการรุกคืบเข้ามาอย่างก้าวกระโดดของ “ธุรกิจสีเทา” ภายใต้การขับเคลื่อนของผู้มากด้วยความจัดเจนจากประเทศจีน

แม้ในบางช่วงบางตอนจะได้รับการทักท้วงจาก นายสันธนะ ประยูรรัตน์ แต่ในเมื่อเส้นทางการขุดคุ้ย เปิดโปงของ นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ มิได้ดำเนินอย่างเลื่อนลอย

ตรงกันข้าม กลับประสานไปยังสำนักงานตำรวจแห่งชาติตั้งแต่ต้น น้ำหนักในการเคลื่อนไหวของ นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ก็ได้รับความสนใจจากสังคม

ในที่สุดแล้วใครกันแน่ที่จะทะยานไปอยู่ในฐานะ “พระเอก”

อย่าลืมเป็นอันขาดว่าบทบาทในการชี้ขาดอย่างแท้จริง 1 พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล และ 1 พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ซึ่งดำรงอยู่ในจุดอันเป็นรอง ผบ.ตร.

อย่าลืมเป็นอันขาดว่า ทุกก้าวแห่งการเคลื่อนไหวขยายผลของ 2 พล.ต.อ.นี้ได้รับการประกันความชอบธรรม

ไม่เพียงเป็นความชอบธรรมโดยตำแหน่ง หากแต่ 1 เป็นไปตามคำสั่งของนายกรัฐมนตรี 1 ด้วยความเห็นชอบของรองนายกรัฐมนตรี และ 1 สำทับตามมาด้วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ

ไม่ว่าเมื่อ นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ออกโรง ไม่ว่าเมื่อ นายสันธนะ ประยูรรัตน์ ออกมาทักท้วง ไม่ว่าการขยายผลของ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล

เป้าหมายหลักยังเป็น “ธุรกิจสีเทา” ที่แพร่ขยายเข้ามา กระนั้นที่ไม่ควรมองข้ามก็คือ การระบุบทบาท “อดีตรัฐมนตรี” บางคน

แม้จะยังไม่มีใครระบุนามของ “อดีตรัฐมนตรี” คนนั้นว่าเป็นใคร สังกัดพรรคการเมืองใด และมีบทบาทอย่างไรในทางการเมืองและต่อ “ธุรกิจสีเทา”

กระนั้น สังคมมีบทสรุปร่วมกันอย่างแทบมิได้นัดหมาย

ไม่ว่ามองปฏิบัติการครั้งนี้ว่ามีความมุ่งมั่น แน่วแน่เพียงใดในการกวาดล้างและขจัดเครือข่าย “ธุรกิจสีเทา” หากแต่ยังมีผลข้างเคียงไปกับ “อดีตรัฐมนตรี”

ตรงนี้ต่างหากที่สะท้อนความเหี้ยมโหดเอาคืนทางการเมือง