FootNote:เส้นทางเลือก ประยุทธ์ จันทร์โอชา พลังประชารัฐ ฤา รวมไทยสร้างชาติ
อุบัติแห่งพรรครวมไทยสร้างชาติ สร้างผลสะเทือนเป็นอย่างสูงให้กับพรรคประชาธิปัตย์ เมื่อเปรียบเทียบกับกรณีพรรคสร้างอนาคตไทยหรือพรรคชาติพัฒนา
เพราะไม่เพียงแต่ได้ นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หากแต่เด่นชัดว่าน่าจะเป็น นายไตรรงค์ สุวรรณคีรี อีกด้วย
กล่าวสำหรับพรรคสร้างอนาคตไทย ก็สามารถดูดเพียง นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ ซึ่งหากประเมินจากพรรคประชาธิปัตย์ ก็พร้อมที่จะสูญเสียอยู่แล้ว
เช่นเดียวกับกรณีของ นายกรณ์ จาติกวณิช ก็เด่นชัดยิ่งว่าล้มเหลวจากการจัดตั้งพรรคกล้า จึงจำเป็นต้องไปผนวกรวมกลาย เป็นพรรคชาติพัฒนา “กล้า”
แต่กล่าวสำหรับการเกิดขึ้นของพรรครวมไทยสร้างชาติ การล่วงหน้าไปก่อนของ นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ในฐานะที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี อาจไม่ได้ก่อผลสะเทือนมากนัก
เพียงแต่พลันที่ได้ความไว้วางใจจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ให้ดำรงตำแหน่งเป็นหัวหน้าพรรคก็ก่อให้เกิดการเคลื่อนไหวจากภายในพรรคประชาธิปัตย์โดยอัตโนมัติ
ทำท่าจะกลายเป็นระลอกคลื่นแห่งการไหลไปรวมพลใหญ่
เห็นได้จาก การตัดสินใจของ นายวิทยา แก้วภราดัย ตามมาด้วย การตัดสินใจของ นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ อย่างมีนัยแหลมคมยิ่ง ในทางการเมือง
อย่าได้แปลกใจ หากจะนำไปสู่การเลือกข้างอย่างเด่นชัดของพี่น้องตระกูล “จุลใส”แห่งจังหวัดชุมพร
การมาของ นายวิทยา แก้วภราดัย การมาของ นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ การมาของ นายชุมพล จุลใส เท่ากับเป็นสัญญาณจากมวลมหาประชาชน กปปส.
มีความนัยอย่างลึกซึ้ง โยงยาวไปยัง นายสุเทพ เทือกสุบรรณ สะท้อนการเลือกระหว่างรวมพลังประชาชาติไทย กับรวมไทยสร้างชาติอย่างเด่นชัด
ยิ่งเมื่อ นายไตรรงค์ สุวรรณคีรี ตัดสินใจอำลาจากพรรคประชาธิปัตย์ที่ผูกพันถึง 38 ปียิ่งมีความลึกซึ้งต่อรวมไทยสร้างชาติ
มีความเชื่อมั่นเป็นอย่างสูงว่าแนวโน้มของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะมาทางพรรครวมไทยสร้างชาติ โดยมีสัญญาณจากกรณี ของ นายไตรรงค์ สุวรรณคีรี
ความเชื่อนี้จะก่อให้เกิดการไหลออกของพรรคประชาธิปัตย์ เป็นการไหลออกในอัตราเร่งอย่างรุนแรงของพรรคประชาธิปัตย์ ผนวกกับการไถลออกของพรรคพลังประชารัฐ โดยมุ่งหน้าไปยังพรรครวมไทยสร้างชาติ
สร้างความมั่นใจในการ “ไปต่อ” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา