FootNote:เดิมพันการเมือง บ่งชี้ ‘อนาคต’ ต่อพลังประชารัฐ กล้า ไทยภักดี

เอกภาพอันสะท้อนออกจากพรรคพลังประชารัฐ พรรคกล้า พรรคไทยภักดี ในการเคลื่อนไหวช่วง ‘โค้งสุดท้าย’ ก่อนวันอาทิตย์ที่ 30 มกราคม ทรงความหมายยิ่ง

ไม่ว่าพรรคพลังประชารัฐ ไม่ว่าพรรคกล้า ไม่ว่าพรรคไทยภักดี ล้วนประกาศหนุนการดำรงอยู่ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา

แม้ว่าในการเลือกตั้งซ่อมที่เขต 1 ชุมพร เขต 6 สงขลา พรรคพลังประชารัฐไม่แสดงออกอย่างเด่นชัด แม้ว่าพรรคไทยภักดี แสดงในเบื้องต้นต้องการต้านนักการเมืองแห่งพรรคพลังประชารัฐ

แม้ว่าพรรคกล้าจะยืนยันเจตจำนงเสรีของตนที่ต้องการสร้าง การเมืองใหม่ การเมืองสร้างสรรค์การเมืองที่มีคุณภาพ เพื่อฉีกออกมาสร้างความต่างจากพรรคในสังกัดเดิมของตน

กระนั้น ความน่าสนใจอย่างยิ่งก็ตรงที่พรรคพลังประชารัฐยืน ยัน ‘เลือกเบอร์ 7 ได้ลุงตู่’ พรรคกล้าประกาศแนวทางตรงกันกับพรรคไทยภักดีที่ปรารถนาจะไปช่วยงาน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา

เอกภาพในทางความคิดเช่นนี้นำไปสู่ความเป็นเอกภาพในการเคลื่อนไหวทางการเมืองที่เหลือหนทางเลือกน้อยอย่างยิ่ง

ด้านหนึ่ง คำประกาศไม่ว่าของพรรคพลังประชารัฐ ไม่ว่าของพรรคกล้า ไม่ว่าของพรรคไทยภักดี แสดงว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ยังเป็นความหวัง ความมั่นใจในทางการเมือง

เท่ากับเป็นรูปธรรมว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา มีผลงานและ ผลงานนั้นน่าจะได้รับความชมชอบจากประชาชน

ขณะเดียวกัน ในอีกด้านหนึ่ง ท่าทีไม่ว่าจะจากพรรคพลังประชารัฐ ไม่ว่าจะจากพรรคไทยภักดี ไม่ว่าจะจากพรรคกล้า ดำเนิน ไปอย่างมีการผูกมัด

ผูดมัดความสำเร็จในทางการเมืองของตนให้ขึ้นอยู่กับชื่อเสียง และเกียรติภูมิของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา

ประเด็นมิได้อยู่ที่ ‘ชัยชนะ’ อย่างด้านเดียว หากโอกาส ‘แพ้’ ก็มี

ต้องยอมรับว่า ‘เดิมพัน’ จากผลแห่งชัยชนะและพ่ายแพ้ที่จะปรากฏในวันอาทิตย์ที่ 30 มกราคม จะกลายเป็น ‘เส้นแบ่ง’ อย่างแหลมคมยิ่งต่อการเมืองในอนาคต

มิได้หมายถึงอนาคตของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เท่านั้น

หากที่สำคัญเป็นอย่างมากยังจะมีต่ออนาคตของพรรคพลังประชารัฐ พรรคไทยภักดี และพรรคกล้าอย่างแน่นอน

การตัดสินใจของประชาชนในอีก 1 วันจึงทรงความหมาย