FootNote:อ่านมวลมหาประชาชน กปปส. ผ่านจังหวะก้าว ถาวร เสนเนียม
จะเข้าใจต่อยุทธศาสตร์ทางการเมืองในปี 2565 ต้องเริ่มจากภาพข่าวที่ นายถาวร เสนเนียม จัดงานเลี้ยงครั้งใหญ่ภายหลังพ้นสภาพ ส.ส.โดยคำวินิจฉัยของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ
เป็นการพ้นสภาพพร้อมกับ นายชุมพล จุลใส นายอิสระ สมชัย และนายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์
นั่นก็คือ ภาพที่ นายถาวร เสนเนียม ในฐานะเจ้าของพื้นที่เดิมให้การต้อนรับผู้สมัครรับเลือกตั้ง ‘ซ่อม’ ไม่ว่าจะมาจากพรรคพลังประชารัฐ ไม่ว่าจะมาจากพรรคประชาธิปัตย์
คำพูดสำคัญก็คือ ผู้สมัครจากพรรคประชาธิปัตย์ก็เป็น ‘น้องสาว’ ผู้สมัครจากพรรคพลังประชารัฐ บิดาของผู้สมัครก็เคยเป็นหัวคะแนนให้กับตนมาก่อน
คล้ายกับ นายถาวร เสนเนียม จะประกาศตัว ‘เป็นกลาง’ ในระหว่างการสัประยุทธ์ระหว่างคนของพรรคประชาธิปัตย์กับคนของพรรคพลังประชารัฐ
แต่แล้วในอีกไม่นานก็ปรากฎเครือข่ายของ นายถาวร เสนเนียม ปรากฎขึ้นในพรรคไทยภักดีด้วยความคึกคัก เข้มข้น
ผลการประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2565 ของพรรคไทยภักดี คือการเห็นชอบต่อการดำรงตำแหน่งเป็นเลขาธิการพรรคของ พล.ต.ท.ชาญเทพ เสสะเวช
หากไม่ศึกษาเส้นทางของ พล.ต.ท.ชาญเทพ เสสะเวช ก็จะไม่เข้าใจในเส้นสายในทางการเมือง
ท่านผู้นี้เคยได้รับความไว้วางใจจาก นายถาวร เสนเนียม ห้วงที่ ดำรงตำแหน่งเป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ให้เป็นกรรมการตรวจสอบการทุจริตในการบินไทย
ขณะเดียวกัน พรรคไทยภักดี ยังได้แต่งตั้ง นายทินกร ปลอดภัย ให้ดำรงตำแหน่งเป็นผู้อำนวยการเลือกตั้งซ่อม เขต 9 จตุจักรหลักสี่
คนผู้นี้เป็นมือทำงานให้ นายถาวร เสนเนียม มายาวนาน
แวดวงการเมืองมีความเชื่อมั่นว่าแม้จะประกาศเป็นกลางในระหว่าง พรรคประชาธิปัตย์กับพรรคพลังประชารัฐ แต่ นายถาวร เสนเนียม ก็ เลือกที่จะเป็น ‘ลมใต้ปีก’ ให้กับพรรคไทยภักดี
ด้วยการส่งทั้ง ‘มือขวา’ และ ‘มือซ้าย’ เข้าไปในตำแหน่งสำคัญ
จึงเท่ากับสะท้อนให้เห็นลักษณะการจัดกระบวนการเมืองและความสัมพันธ์ภายในมวลมหาประชาชนกปปส.ด้วยกัน
ทุกอย่างดำเนินไปตามแผน ‘แยกกันเดิน รวมกันตี’ เด่นชัด