FootNote:สัญญาณเตือนประชาธิปัตย์ รุกไล่สู่เลือกตั้ง ‘ผู้ว่าฯกทม.’
พลันที่มีเสียงดังจากภายในพรรคประชาธิปัตย์ ตั้งข้อสังเกตถึงการดำรงอยู่อย่างยาวนานของผู้ว่าฯกทม. โดยยังไม่มีวี่แววว่าจะมีการเลือกตั้ง นั่นเท่ากับเป็นสัญญาณอันแหลมคมทางการเมือง
เป็นสัญญาณที่ไม่เพียงแต่ นายวิษณุ เครืองาม จะต้องล้างหู น้อมรับฟัง หากแต่ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ก็ต้องสนใจ
เพราะว่าเสียงจากพรรคประชาธิปัตย์ เป็นเสียงของพรรคร่วมรัฐบาล มีความใกล้ชิดและแนบแน่นเป็นอย่างยิ่งอยู่กับรัฐบาลอยู่กับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
แม้ว่าในการเลือกตั้งเมื่อเดือนมีนาคม 2562 พรรคประชาธิปัตย์ จะไม่ได้รับเลือกตั้งเป็นส.ส.แม้แต่คนเดียวในกรุงเทพมหานคร แต่พรรคนี้ก็เติบใหญ่มาจากกรุงเทพมหานคร
ไม่ว่าจะเป็นยุคของ นายควง อภัยวงศ์ ไม่ว่าจะเป็นยุคของ ม.ร.ว.เสนีย์ ปราโมช ไม่ว่าจะเป็นยุคของ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ
ก็สะท้อนให้เห็นสัมพันธ์กับกรุงเทพมหานครตรึงตรา
เสียงกู่ร้องก้องอันมาจากปากของพรรคประชาธิปัตย์ จึงใกล้เคียงอย่างยิ่งกับความปรารถนาของคนกรุงเทพมหานคร
ในความเป็นจริงสถานการณ์ทางการเมืองกำลังรุกไล่เข้ามาเด่นชัด และกระชับพื้นที่มากเป็นลำดับ จากการเลือกตั้งนายกอบจ. จากการเลือกตั้งนายกเทศมนตรีเทศบาล และนายกอบต.
คำถามก็คือ ทำไมจึงมีการเลือกตั้งอบจ. ทำไมจึงมีการเลือกตั้งเทศบาล ทำไมจึงมีการเลือกตั้งอบต.
แล้วเหตุใดคนกรุงเทพมหานครจึงยังไม่ได้ ‘เลือกตั้ง’
การอยู่ในตำแหน่งผู้ว่าฯกทม.ของ พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง จึงเหมือนกับการนั่งอยู่บนกองไฟแห่งความปรารถนา จะกำหนดชะตาชีวิตตนเองของคนกรุงเทพมหานคร
เป็นการรุกไล่ไปยัง พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา เป็นการรุกไล่ไปยัง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ด้วยอัตราเร่งเร้าอย่างเป็นพิเศษ
น่ายินดีที่พรรคประชาธิปัตย์อาสาเป็น ‘กองหน้า’ ในการเคลื่อนไหวและกดดัน อย่างน้อยก็เพื่อดำรงสถานะและศักดิ์ศรีในทางการเมืองของคนกรุงเทพมหานคร
เพราะหากดูการเคลื่อนไหวในสังคมทุกจุดก็มีความพร้อม
ไม่ว่าจะมองจากด้านของพรรคพลังประชารัฐ ไม่ว่าจะมองจากด้านของพรรคก้าวไกล ต่างก็วางตัวคนลงสมัครสก.แล้วครบครัน
เพียงแต่ยังไม่มีสัญญาณจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา