FootNote:สัญญาณการเลือกข้างการเมือง สะเทือนตรง ประยุทธ์ จันทร์โอชา

ไม่ว่าจะเป็นการประกาศตัวผู้สมัครภาคเหนือของพรรคเพื่อไทย ไม่ว่าจะเป็นการประกาศตัวผู้สมัครจังหวัดชลบุรีของพรรคพลังประชารัฐ คือสีสันก่อนการเลือกตั้ง

หากถือเดือนมีนาคม 2562 เป็นจุดตั้งต้นวาระย่อมเป็นหลังเดือนมีนาคม 2566 ต้องมีการเลือกตั้งตามวาระแน่นอน

ความเข้มข้นจากสถานการณ์การเลือกตั้งซ่อมที่จังหวัดลำปาง อันส่งผลให้ชัยชนะเป็นของพรรคเสรีรวมไทย แทนที่จะเป็นของพรรคเศรษฐกิจไทย จึงเท่ากับเป็นสัญญาณ

ไม่เพียงเป็นสัญญาณของความร่วมมือระหว่างพรรคเพื่อไทย พรรคก้าวไกล กับพรรคเสรีรวมไทย เท่านั้น หากแต่ยังเป็นสัญญาณจากพรรคพลังประชารัฐ เป็นสัญญาณจากรัฐบาล

การดำรงอยู่ของพรรคเศรษฐกิจไทยที่ไม่สามารถกำหนดสถานะของตนอย่างแน่นอนแจ่มชัด จึงถูกซัดกระหน่ำอย่างรุนแรงและรอบด้าน จำเป็นต้องจัดระบบวางจุดยืนของตนเสียใหม่

จำเป็นต้องเลือกว่าจะอยู่ฝ่ายเดียวกับรัฐบาลหรือจะต้องไปยืน อยู่ในจุดตรงกันข้าม การเลือกนี้จำเป็นต่อทุกพรรคการเมืองมิได้มีแต่เพียงพรรคเศรษฐกิจไทยเท่านั้น

สถานการณ์กำลังนำไปสู่การรวมกลุ่มและแยกข้างการเมือง

ความจริงสถานการณ์น่าจะเริ่มตั้งแต่หลังรัฐประหารเมื่อเดือนพฤษภาคม 2557 มาแล้ว แต่ยังไม่จริงจัง เคร่งเครียด แม้เมื่ออยู่ในการเลือกตั้งเมื่อเดือนมีนาคม 2562

สังเกตได้จากท่าทีในแบบของพรรคประชาธิปัตย์ พรรคภูมิใจไทย พรรคชาติไทยพัฒนา

แม้ว่าในระหว่างการหาเสียงจากประกาศท่าทีไม่เอา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา แต่เมื่อผลการเลือกตั้งออกมา ก็กลืนน้ำลายตนเอง แปรจากประชาธิปไตยสุจริตอย่างฉับพลันทันใด

สัญญาณจากการเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.ผ่านชัยชนะของ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ทำให้การแบ่งขั้วแยกฝ่ายมีความแจ่มชัด และยิ่งเตือนให้ตระหนักแต่ก็มีพรรคและนักการเมืองจำนวนหนึ่งไม่เชื่อ

ผลการเลือกตั้งซ่อมที่จังหวัดลำปางจึงเน้นย้ำสัญญาณจากตำแหน่งผู้ว่าฯกทม.ให้เห็นอย่างเป็นจริงอีกคำรบหนึ่ง

ต้องยอมรับว่าหากเดือนมีนาคม 2562 ปรากฏกระแส นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ อึกทึกครึกโครมยิ่ง เดือนพฤษภาคม 2565 ก็นำไปสู่ กระแส นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ อย่างชัดเจน

ทั้งทวีความร้อนแรงแหลมคมกว่า นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ

สัญญาณนี้แบ่งฝ่ายกันอย่างชัดเจนระหว่างกระแสเอาและไม่เอา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อย่างตรงไปตรงมา

บ่งชี้ถึงแนวโน้มการเลือกตั้งอย่างเป็นการทั่วไปครั้งหน้า