FootNote:สมรภูมิการเลือกตั้ง ปี 2566 อนาคต ประยุทธ์ จันทร์โอชา
ถึงแม้จะมีอภินิหารในทาง “กฎหมาย” สามารถอุ้มและประคองให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ตีฝ่าด่านการดำรงตำแหน่ง 8 และดำรงจุดหมายในการ “ไปต่อ” ได้
กระนั้น ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ก็มิอาจรอดพ้นไปจากมรสุมโลหิตแห่ง “การเลือกตั้ง” ไปได้
เพราะถึงอย่างไรสภาพผู้แทนราษฎร ซึ่งมีพื้นฐานมาจากการ เลือกตั้งอย่างเป็นการทั่วไปเมื่อเดือนมีนาคม 2562 ก็จะต้องครบวาระในเดือนมีนาคม 2566 ตามรัฐธรรมนูญ
ความหมายก็คือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ก็จำเป็นต้องยุบสภาและจัดให้มีการเลือกตั้งใหม่ ภายในกำหนดที่รัฐธรรมนูญบัญญัติ ไม่มีทางหลีกเลี่ยงไปได้
และเมื่อถึงขั้นตอนแห่ง “การเลือกตั้ง” นั่นหมายถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะต้องเผชิญกับกระบวนการทางการเมือง อันมากด้วยความสลับซับซ้อน
คำถามก็คือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะดำรงอยู่บนฐานแห่งการสนับสนุนของพรรคการเมือง จึงจะเป็นหลักประกันว่าจะสามารถ “ไปต่อ” ได้อย่างแข็งแกร่ง มั่นคง
เหมือนกับจะเป็นพรรคพลังประชารัฐ เหมือนกับจะเป็นพรรครวมไทยสร้างชาติ คำถามก็คือจะสามารถวางใจได้เต็มร้อยหรือ
สถานะและความสัมพันธ์ระหว่าง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา กับ พรรคพลังประชารัฐอย่างเด่นชัด นับแต่ปรากฏสถานการณ์เดือนกันยายน 2564 ขึ้น
เหมือนจะเป็นการปะทะกับ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า แต่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ก็รู้ว่ามี “อะไร” มากยิ่งกว่านั้น
หากสถานการณ์เดือนกันยายน 2564 มิใช่ปัญหาเหตุใดจึงต้องมีการรุกไล่ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ออกจากคณะรัฐมนตรีและถึงกับต้องให้พ้นไปจากพรรคพลังประชารัฐ
หากสถานการณ์เดือนกันยายน 2564 มิใช่ปัญหา ไฉนจะต้องมีการจัดตั้งพรรครวมไทยสร้างชาติขึ้น ทั้งๆที่เดิมก็ต้องการส่งคนเหล่านี้ เข้าไปแย่งยึดการบริหารในพรรคพลังประชารัฐ
นี่คือรากฐาน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในทางการเมือง
ไม่ว่าจะมองสภาพของพรรคพลังประชารัฐ ไม่ว่าจะมองสภาพของพรรครวมไทยสร้างชาติ จากสถานการณ์เดือนสิงหาคม 2565 บ่งชี้ว่าสมรภูมิการเลือกตั้งเข้มข้นอย่างยิ่ง
เป็นความเข้มข้นบนพื้นฐานแห่งการ “ตั้งรับ” ทางการเมือง
เป็นความเข้มข้นบนความพร้อมของพรรคเพื่อไทย และการเติบใหญ่เป็นลำดับของพรรคก้าวไกล คณะก้าวหน้า
ชัยชนะ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในสนามเลือกตั้งริบหรี่ยิ่ง