FootNote:ระเบิดจาก บุญจง วงศ์ไตรรัตน์ ระเบิด จากวลี “ผู้ใหญ่ในพรรค”
แม้การถอยของ นายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ จะเป็นการถอยอย่างกะทันหัน กระนั้น กระบวนการถอยของ นายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ ก็ดำเนินไปในกระสวนอย่างที่เรียกว่าถอยในทาง “ยุทธศาสตร์”
คีย์เวิร์ดที่สำคัญและสะท้อนนัยยะอันแหลมคมในทางการเมือง อยู่ที่การอ้างอิงว่า เขามาเพราะคำเชื้อเชิญของ “ผู้ใหญ่ในพรรค”
คำว่า “ผู้ใหญ่ในพรรค” นี่แหละคือระเบิดเวลาในทางการเมือง
หากเป็นในกาลอดีต คำอ้างเช่นนี้อาจจะเป็นเรื่องประเภทลอยไปตามสายลมอ่อน แต่เมื่อเกิดในบรรยากาศอันเข้มข้นยิ่งของการเมืองในยุค “แลนด์สไลด์” จึงกลายเป็นความละเอียดอ่อน
ละเอียดอ่อนเพราะเป็นบริบทในลักษณะเดียวกันกับกรณีของ นายปริญญ์ พานิชภักดิ์ ที่กลายเป็นประเด็นใหญ่โต เพราะได้เป็นรองหัวหน้าพรรคจากการผลักดันของ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์
ยิ่งกว่านั้น บริบทอันแวดล้อมต่อบรรยากาศ “แลนด์สไลด์” ทางการเมืองได้เสนอท่วงทำนองการตรวจสอบอันเข้มข้น อย่างยิ่งให้กับ บรรดาโหวตเตอร์ภายในของพรรคเพื่อไทย
เป็นบรรยากาศแห่งการตีกระทบไปยังพรรคการเมือง “อื่น” และกลายเป็นปมในแบบ “ว่าแต่เขาอิเหนาเป็นเอง” ขึ้นมา
ถามว่าเหตุปัจจัยอะไรทำให้กระแสต่อต้านการคืนสู่เหย้าในกรณีของ นายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ ปะทุขึ้นด้วยความร้อนแรงและรวดเร็วอย่างสูงยิ่งในทางการเมือง
แม้กระทั่งรองเลขาธิการพรรคอดีตคอมเมนเตเตอร์ทางโทรทัศน์บางคนยังปรับตัวแทบไม่ทัน
เนื่องจากเพิ่งเปล่งประกาศคำว่า “ลุย” ไปตามความเคยชิน
คำตอบเนื่องจากการสร้างวัฒนธรรมอย่างใหม่ในการวิพากษ์ วิจารณ์อย่างกว้างขวาง โดยเฉพาะอย่างยิ่งบทบาทของ “นางแบก” หรือ “กองเชียร์” อันเริ่มจาก “กลุ่มแคร์” แพร่เข้าไปในพรรคเพื่อไทย
ปฎิบัติการอันทรงพลังนี้แหละที่จะกลายเป็นทวนสวนแทงกลับ
เหตุผลในการหวนคืนสู่เหย้าบนพื้นฐานของวลีที่ว่า “ผู้ใหญ่ในพรรค” เป็นคนออกปากจะกลายเป็นคำถามอย่างกว้างขวาง ใหญ่โตขึ้นมาโดยอัตโนมัติ
เป็นเรื่องที่ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว จำเป็นต้องอรรถาธิบาย
เป็นเรื่องที่ นายประเสริฐ จันทรรวงทอง ในฐานะเลขาธิการและรับผิดชอบพื้นที่นครราชสีมาจำเป็นต้องทำคำชี้แจง
นี่ย่อมเป็น “ระเบิด” ที่นายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ วางเอาไว้