FootNote:มีดอัน คมกริบของ ‘รี-โซลูชั่น’ แบ่งขั้วการเมืองเป็น 2 ขั้วชัด
ภาพอันปรากฏในที่ประชุมรัฐสภาตลอดการประชุม ตั้งแต่เช้าจนถึงดึกของวันที่ 16 พฤศจิกายน ระหว่างการพิจารณาร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ ‘ฉบับประชาชน’
คือภาพการจัดแถวทางการเมืองเพื่อสร้างความเด่นชัดอีกคำรบหนึ่ง ก่อนที่ปี่กลองของการเลือกตั้งจะมาถึง
น่าสนใจก็ตรงที่เป็นการจัดระบบโดยมีร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญของ ‘กลุ่มรี-โซลูชั่น’ เป็นตัวตั้ง โดยมี นายปิยบุตร แสงกนกกุล นายพริษฐ์ วัชรสินธุ เป็นหัวหมู่ทะลวงฟัน
เป็นหัวหมู่ทะลวงฟันในการลากเอาแก่นแท้ภายใน 250 ส.ว.ออกมาดูดดึงความคิด และความต้องการอย่างแท้จริงของ ส.ส.ในพรรคร่วมรัฐบาลให้เป็นที่ปรากฏอย่างเด่นชัด
ไม่ว่าจะมองผ่าน นายวันชัย สอนศิริ ไม่ว่าจะมองผ่านกระบวนท่าของ นายวีระกร คำประกอบ แห่งพรรคพลังประชารัฐ
และรวมถึงแต่ละโวหารของคนจากพรรคประชาธิปัตย์
ตัวตนอันเคยซ่อนเร้นงำประกายเอาไว้ภายใต้หน้าหากแห่งคำว่า ‘ประชาธิปไตย’ ก็กร่อนล่อนกระจายออกมาจนหมดสิ้น
บทสรุปจากความจัดเจนในทางการเมืองก็คือ พรรคการเมืองพรรคหนึ่ง นักการเมืองคนหนึ่ง เมื่อเล่นบท ‘ฉวยโอกาส’ ในทางการเมือง แล้วก็มักจะถลำลึกลงไปในพรมแดนแห่งการฉวยโอกาสล้ำลึกยิ่งขึ้น
เห็นได้จากการเสพเสวนากับกระบวนการ ‘รัฐประหาร’ เห็นได้ในการเข้าร่วมขบวนการ ‘สืบทอดอำนาจ’
บทบาทของ ส.ว.อย่าง นายเสรี สุวรรณภานนท์ สามารถสัมผัส ได้ตั้งแต่รัฐประหาร 2549 ต่อเนื่องมายัง 2557
เหตุผลในการขานชื่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในเดือนมิถุนายน 2562 ของพรรคประชาธิปัตย์นั้นโอ่อ่าอลังการยิ่ง
และในที่สุดในการตัดสินใจในวันที่ 17 พฤศจิกายน คือคำตอบ
สภาพการณ์จากการประชุมรัฐสภาตลอดวันที่ 16 และการตัดสินใจจะรับหรือไม่รับร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญในวันที่ 17 พฤศจิกายน จะส่งผลให้เกิดขั้วทางการเมือง 2 ขั้วอย่างเด่นชัด
การเลือกข้างของพรรคพลังประชารัฐ พรรคภูมิใจไทย พรรคประชาธิปัตย์ พรรคชาติไทยพัฒนาจึงทรงความหมาย
เป็นความหมายที่จะส่งผลถึงการเลือกตั้งหากจะมีในอนาคต