FootNote:ท่วงท่า อาการ สุชาติ ชมกลิ่น ในสถานการณ์ อภิปรายทั่วไป

อาการหงุดหงิดอันมาจากญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจของ นายสุชาติ ชมกลิ่น จนถึงกับเห็นว่าเป็นญัตติที่โมฆะ ไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญกำลังเป็นความหงุดหงิดที่น่าจับตา

แม้ว่าในที่สุดแล้วรัฐสภามีความเห็นว่าข้อท้วงติงของ นายสุ ชาติ ชมกลิ่น ไม่เป็นผล เพราะเป็นญัตติที่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ

ที่น่าจับตาเป็นอย่างมากมิได้อยู่ที่ความรอบรู้ในทางกฎหมายโดยเฉพาะกฎหมายรัฐธรรมนูญของ นายสุชาติ ชมกลิ่น มีความลึกซึ้งรอบด้านมากน้อยเพียงใด

หากแต่อยู่ที่ “อาการ”อันเป็นมูลฐานและกลายเป็นข้ออ้างใน การประท้วงของ นายสุชาติ ชมกลิ่น มิได้พุ่งเป้าไปยังพรรคร่วมฝ่ายค้านอย่างเป็นด้านหลัก

ตรงกันข้าม กลับเน้นไปยังบทบาทของ “บางคน”ที่ถูกระบุว่า มีอำนาจและอิทธิพลเหนือการตัดสินใจของพรรคร่วมฝ่ายค้านโดยที่ “บางคน” นั้นเด่นชัดยิ่งว่าเป็นใคร

และใครคนนั้นไม่เพียงแต่จะมิได้ดำรงอยู่อย่างเป็นเนื้อเดียว กับพรรคร่วมฝ่ายค้าน หากแต่อยู่ในภาวะคาบเกี่ยวและเอนเอียงมาทางด้านของรัฐบาลมากกว่า

อาการของ นายสุชาติ ชมกลิ่น จึงเท่ากับตอกย้ำและยืนยันว่าอันตรายต่อรัฐบาลน่าจะมาจาก “ภายใน”มากกว่า “ภายนอก”

หากจับการเคลื่อนไหวในทางการเมืองในห้วงก่อนและหลังการเปิดประชุมรัฐสภาในเดือนพฤษภาคมก็จะจับปรากฏการณ์ได้ไม่ยากเย็นเท่าใดนัก

ไม่ว่าก่อนพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณ ไม่ว่าก่อนพิจารณา ญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจ

นั่นก็คือการเคลื่อนไหวของกลุ่ม 16 ส.ส.ที่นำโดย นายพิเชษฐ สถิรชวาล ประสานกับการเคลื่อนไหวของพรรคเศรษฐกิจไทยที่นำโดย ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า

เป็นการเคลื่อนไหวที่เปิดโปงรัฐมนตรีบางคนของพรรคพลัง ประชารัฐ เป็นการเคลื่อนไหวที่แสดงความภักดีสูงสุดต่อสถานะ และการดำรงอยู่ของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ

แต่ตั้งข้อสงสัยต่อ 10 รัฐมนตรีที่จะถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจ

ไม่ว่าจะมองบทบาทและการเคลื่อนไหวของกลุ่ม 16 ส.ส.และของพรรคเศรษฐกิจไทยอย่างไร แต่เด่นชัดยิ่งว่า 2 กลุ่มนี้พร้อมรับฟังความ เห็นและข้อมูลการอภิปรายของฝ่ายค้านอย่างเปิดกว้างและตั้งเป้าสงสัยไปยังรัฐมนตรีบางคนในพรรคพลังประชารัฐ

ในเมื่อ นายสุชาติ ชมกลิ่น เป็นทั้งผู้อำนวยการพรรคพลังประชารัฐและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานจึงออกอาการมากอย่างผิดปกติ

กลายเป็นเป้า กลายเป็นจุดสนใจในทางการเมืองขึ้นเด่น