FootNote:จุดสะดุด มิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ เบื้องหน้า ประวิตร วงษ์สุวรรณ
หากมองจากมุมด้าน “การตลาด” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ห่างชั้นจากความจัดเจนของ นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ ราวฟ้ากับเหว
เหมือน “ศาสตราจารย์” กับเด็กนักเรียน “อนุบาล”
เพียงเห็นท่วงทำนองช่วงชิง “ไมโครโฟน” และยึดกุมอยู่อย่างชนิดไม่ยอมวางของ นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ เห็นเห็นชัดแล้วว่ามี ความคล่องแคล่วปราดเปรียวมากยิ่งกว่า
กระนั้น ภายในท่วงทำนองตุ๊ต๊ะต้วมเตี้ยมของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ กลับเป็นท่วงทำนองที่มีเสน่ห์ เรียกความเห็นอกเห็นใจได้เหนือกว่าอย่างเห็นได้ชัด
ไม่เพียงแต่ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน นายสันติ พร้อมพัฒน์ จะทอดตามองด้วยความเข้าใจ หากกระทั่ง นายวิรัช รัตนเศรษฐ ก็พร้อมออกแอ็คชั่นในเชิงปกป้อง
แทนที่ความคล่องแคล่วปราดเปรียว จะเพิ่มคะแนนให้กับ นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ แต้มทางการเมืองกลับเทให้กับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ มากกว่า
พลันที่ นายวีระกร คำประกอบ ออกมาตั้งข้อสังเกตประสานกับ นายรงค์ บุญสวยขวัญ สังคมจึงเกิดความโน้มเอียง
โน้มเอียงไปเชื่อเหมือนบทสรุป นายสุขุม นวลสกุล
มองอย่างผิวเผินประหนึ่งว่า กระบวนท่า นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ จะสำแดงความเหนือกว่า โดยเฉพาะการกำหนดโพสิชั่นนิ่งในการชิงบทบาท “นำ” บนเวที
แต่การเมืองวัฒนธรรมแบบไทยมีความละเอียดอ่อนมากยิ่ง กว่ากระบวนการทางการตลาดยิ่งนัก
ท่าทีต่อ นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ จึงเป็นแคลงคลาง กังขา
เมื่อเทียบกับการดำรงเจตจำนงที่จะเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีตั้งแต่พรรคเพื่อไทย กระทั่งมาถึงพรรคพลังประชารัฐ ก็ยิ่งจำหลักอย่างหนักแน่น
หลายคนเห็นใจและเข้าใจแรงกระทบต่อ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร หลายคนเห็นใจและเข้าใจต่อแรงกระทบต่อ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ
มองเห็นว่าเป็นการฉวยโอกาสในทางการเมืองมากกว่า
ภายในความมากด้วย “กระบวนท่า” ผ่านแต่ละจังหวะก้าวของ นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ เมื่อปะทะเข้ากับการ “ไร้” กระบวนท่าของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ
ก่อให้เกิดสภาพการณ์แปรเปลี่ยนในทางการเมืองแหลมคม
ท่วงทำนองของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ กลับสร้างความประทับใจมากขึ้นเป็นลำดับ เมื่อเปรียบเทียบกับท่วงทำนองของ นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์
“การตลาด” จึงไม่มีความหมายมากนักในบางพื้นที่การเมือง