FootNote:ความอ่อนไหว อีสเทิร์น ซีบอร์ด สะเทือนถึง ประยุทธ์ จันทร์โอชา
คำสั่งเลื่อนการลงนามในสัญญาโครงการบริหาร และดำเนินกิจการระบบท่อส่งน้ำสายหลักในภาคตะวันออก โดยมิได้มีการกำหนดวันและเวลาจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
สำคัญไม่เพียงแต่ต่อระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออกเท่านั้น หากแต่สำคัญต่อสถานะของรัฐบาลเป็นอย่างสูง
เนื่องจากเป็นคำสั่งที่ขยายผลไปสู่ “การตรวจสอบ” อย่างจริงจัง
ขณะเดียวกัน ยังเป็นคำสั่งจากนายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ขณะที่การตระเตรียมในด้านพิธีกรรมและกระบวนการ ตัดสินใจในระดับกระทรวงได้สิ้นสุดลงแล้วโดยพื้นฐาน
เท่ากับความรับผิดชอบทั้งหมดอยู่ในมือของกรมธนารักษ์ ภายใต้การกำกับของกระทรวงการคลัง แต่เมื่อกระบวนการถูกยับยั้ง โดยคำสั่งของนายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
ทุกอย่างจึงงันชะงัก ทั้งยังเป็นการงันชะงักในลักษณะที่แทบจะหาคำตอบและทางออกไม่พบ ในเมื่อทุกอย่างขึ้นอยู่กับกระบวนการ ในการสอบสวน
นี่คือความอ่อนไหวทางการเมืองอันแหลมคมยิ่ง
ต้องยอมรับว่าพรรคเพื่อไทยเป็นฝ่ายตั้งประเด็นสงสัยในเงื่อนงำ บางเงื่อนงำ ซึ่งเกิดขึ้นระหว่างดำเนินการของกรมธนารักษ์ กระทรวงการคลัง
มาดหมายอย่างเต็มเปี่ยมที่จะอภิปรายอย่างพิสดาร เมื่อยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจ
ความแหลมคมของสภาพการณ์ในทางการเมืองเกิดขึ้นเมื่อมี ส.ส.ของพรรคพลังประชารัฐ แสดงความเห็นในเชิงฝากและให้การรับรองต่อการเคลื่อนไหวนี้ของฝ่ายค้าน
แม้ว่าข้อเสนอและการสำนองนี้จะเป็นเพียงในเรื่องของคำพูดมิ ได้มีการปฏิบัติที่เป็นจริง แต่หากว่ารายละเอียดได้รับการเปิดเผย แต่กระทบโดยตรงต่อรัฐบาล ต่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
สัญญาณอันเนื่องแต่โครงการการส่งน้ำภายใต้การพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก จาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จึงเป็นสัญญาณอันมากด้วยความร้อนแรง
สะท้อนสภาวะอ่อนไหว “ภายใน” ของรัฐบาลโดยตรง
ปัจจัยสำคัญคือ สะท้อนการประสานข้อมูลระหว่างพรรคเพื่อไทย กับพรรคพลังประชารัฐว่าดำเนินไปอย่างไร
นี่ย่อมทำให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เกิดความหวาดระแวง