FootNote:ความนัย ปวดร้าว ชายชาติทหาร ผลึกสะท้อน ประวิตร ยอม “เจ็บ”
พลันที่ประโยค “ให้คุณลองมาเป็นผมบ้างดิ” หลุดออกจากปากของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ในท่ามกลางความสนใจใคร่รู้ ต่อการตัดสินใจของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
ทุกคนก็เข้าใจต่อความเป็นไปและการดำรงอยู่ของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ได้อย่างลึกซึ้งมากยิ่งขึ้น
ไม่ว่าจะดำรงอยู่ในสถานะแห่งรองนายกรัฐมนตรีอย่างลอยๆ นับแต่ภายหลังการเลือกตั้งเมื่อเดือนมีนาคม 2562 ไม่ว่าจะดำรงอยู่ในสถานะแห่งหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ
เพราะเมื่อเทียบกับหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย นายอนุทิน ชาญวีรกูล ก็ดำรงตำแหน่งเป็นรองนายกรัฐมนตรี พร้อมกับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข
เพราะเมื่อเทียบกับหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ ก็ดำรงตำแหน่งเป็นรองนายกรัฐมนตรี พร้อมกับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์
ขณะที่หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เสมอเป็นเพียงรองนายกรัฐมนตรี โดยมิได้ควบกับตำแหน่งคุมกระทรวงใดกระทรวงหนึ่ง
ยิ่งเมื่อผ่านสถานการณ์วันที่ 30 กันยายน ยิ่งมีความคับแค้น
เป็นความคับแค้นที่ด้านหนึ่ง มีความพยายามผลักดันให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เข้าไปยึดกุมและครอบครองอำนาจเหนือพรรคพลังประชารัฐอย่างเบ็ดเสร็จ
หากไม่สามารถบรรลุเป้าหมายก็พร้อมที่จะตีจากเพราะได้จัดตั้งพรรครวมไทยสร้างชาติสำรองเอาไว้แล้ว
เป็นการสำรองตั้งแต่มอบหมายให้ นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ไปตระเตรียม เป็นการสำรองเมื่อมอบหมายให้ นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค เข้าไปดำรงตำแหน่งหัวหน้าพรรค
การเคลื่อนไหวทั้งหมดนี้มิได้เป็นความลับ หากแต่ นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ทำในฐานะกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ทำในฐานะที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี
แนวโน้มจึงไม่เพียงแต่พรรครวมไทยสร้างชาติ จะสำรองไว้ให้กับใคร หากแต่ยังก่อให้เกิดความแตกหักกับพรรคพลังประชารัฐ
ไม่ว่าจะมองจากมุมของรองนายกรัฐมนตรี ไม่ว่าจะมองจากมุมของหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ใครดำรงอยู่อย่าง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ย่อมต้องปวดร้าว
ยิ่งคำนึงถึงสายสัมพันธ์ของ “พี่น้อง 3 ป.” ยิ่งมีความลึกซึ้ง
เป็นความลึกซึ้งที่เมื่อพรรครวมไทยสร้างชาติสถาปนาขึ้น ย่อมเท่ากับเป็นการเหยียบไปบนซากปรักหักพังของพรรคพลังประชารัฐ
ประโยค “คุณลองมาเป็นผมบ้างดิ” จึงได้หลุดลอยออกมาด้วยความเจ็บอย่างลึกล้ำเหลือกำหนด