FootNote:ความต่าง ประวิตร ประยุทธ์ เป็นความต่าง ทาง “ยุทธวิธี”
แม้ร่องรอยแห่งความเห็น “ต่าง” ระหว่าง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ กับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะเป็นความเห็น “ต่าง” ในทาง “ยุทธวิธี”
คล้ายกับจะก่อให้เกิดทางเลือกระหว่างเป็นแคนดิเดตของ พรรคพลังประชารัฐ หรือพรรครวมไทยสร้างชาติ
แต่ภายในความเห็น “ต่าง” นี้ก็มีความละเอียดอ่อนอย่างสูง
เนื่องจากแนวโน้มของพรรคพลังประชารัฐก็คือ รายชื่อแคนดิเดตของพรรคจะไม่เหมือนกับเมื่อเดือนมีนาคม 2562 นั่นก็คือมิได้มีเพียง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา คนเดียว
หากแต่เด่นชัดเป็นลำดับว่าอาจมีชื่อ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หรือแม้กระทั่ง พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา นอกเหนือจากที่เคยมี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
ตรงนี้ต่างหากที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ยังไม่สุกงอม ยังไม่เห็นด้วย จึงยังยืนกรานอยู่กับแนวทางเมื่อเดือนมีนาคม 2562 จนกลายเป็นปัญหาที่พรรคพลังประชารัฐไม่เห็นด้วย
บทบาทของพรรครวมไทยสร้างชาติ จึงเท่ากับเป็นเครื่องมือในการต่อรองของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
คำถามอยู่ที่พรรคพลังประชารัฐจะเห็นด้วยหรือไม่ อย่างไร
ความจริง แนวทางของพรรคพลังประชารัฐ ก็มาจากสภาพความเป็นจริงในทางการเมือง ภายหลังคำวินิจฉัยของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญเมี่อวันที่ 30 กันยายน
นั่นก็คือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะสามารถดำรงตำแหน่งเป็นนายกรัฐมนตรีได้อีก 2 ปี
นั่นก็คือ จะสิ้นสุดยุติลงในเดือนเมษายน 2567
คำวินิจฉัยนี้ทำให้พรรคพลังประชารัฐจำเป็นต้องพิจารณา อย่างรัดกุมเพราะเมื่อถึงเวลา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ต้องจบ ใครจะเป็นต่ออีกอย่างน้อย 2 ปี
จึงได้มีการเสนอชื่อ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ และ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา มาเป็นตัวเลือกและเป็นทางออกอย่างสอดรับกับสถานการณ์และความเป็นจริง
นี่คือ ความเห็น “ต่าง” ในทาง “ยุทธวิธี” ที่กลายเป็น “คำถาม”
หากมองกระบวนการในทาง “ความคิด” ระหว่าง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา กับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ก็น่าเห็นใจต่อสิ่งที่จะต้องเผชิญของทั้ง 2 ฝ่าย
ในจุดที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา มากด้วยความมั่นใจ
มั่นใจว่าสถานะและเกียรติภูมิทางการเมืองของตน ยังโดดเด่นและเป็นจุดขาย ไม่จำเป็นต้องเอาคนอื่นมาเทียบเคียงแม้กระทั่ง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ก็ตาม
จุดต่างในทาง “ยุทธวิธี” จึงอาจสะเทือนถึง “ยุทธศาสตร์” ได้