FootNote:ข้อเสนอ แหลมคม จาก “ทักษิณ” ท่ามกลาง การต่อสู้ การเลือกตั้ง

ภายในคำแถลงแสดงความพร้อมที่จะเดินทางกลับบ้านในห้วงเวลาอันเหมาะสมจาก นายทักษิณ ชินวัตร มากด้วยความมั่นใจเป็นอย่างสูง

เป็นความมั่นใจเหมือนกับจะเป็นดุลพินิจอย่างเป็น “ส่วนตัว” ของ นายทักษิณ ชินวัตร

ทั้งๆที่ในความเป็นจริงเป็นความมั่นใจจาก “สภาพการณ์”

โดยพื้นฐาน ความมั่นใจนี้วางอยู่บนความเป็นจริงที่สภาพการณ์ในทางการเมืองกำลังเป็น “คุณ” ไม่ว่าจะมองผ่านคะแนน และความนิยมของพรรคเพื่อไทย

ไม่ว่าจะมองผ่านสภาวะ “ถอยร่น” เป็นลำดับและอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะมองผ่าน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ไม่ว่าจะมอง ผ่านการดำรงอยู่ของพรรครวมไทยสร้างชาติ

การพบกันล่าสุดระหว่าง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ และ นายอนุทิน ชาญวีรกูล ณ บ้านป่ารอยต่อ คือรูปธรรมแห่งการพยายามหาหนทางออกที่เหมาะสมของ 2 พรรคการเมือง

แจ้งชัดเป็นอย่างยิ่งว่า แต้มต่อทางการเมืองอยู่ในมือของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ มิใช่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา

เป็นบรรยากาศแห่งข้อเสนอ “ก้าวข้ามความขัดแย้ง” เด่นชัด

คะแนนและความนิยมจากการสำรวจประชามติผ่าน “โพล” หลายสำนักบ่งชี้อย่างเด่นชัดว่าเป็นของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ว่าเป็นของพรรคเพื่อไทย

นี่ย่อมเป็น “แต้มต่อ” อันทรงความหมายยิ่งในทางการเมือง เมื่อมองผ่านกระบวนการของการเลือกตั้ง

ต้องยอมรับว่า ไม่ว่าคะแนนและความนิยมของ น.ส.แพทอง ธาร ชินวัตร ไม่ว่าคะแนนและความนิยมของพรรคเพื่อไทย ล้วนสัมพันธ์อยู่กับ นายทักษิณ ชินวัตร

สะท้อนให้เห็นว่าความพยายามในการบดขยี้ผ่านกระบวน การรัฐประหาร 2 ครั้งใน 1 ทศวรรษเป็นกระบวนการสูญเปล่า และขัดต่อความรู้สึกในทางสังคม

การเสนอตัวที่จะกลับบ้านและยอมรับเงื่อนไขการติดคุกตามคำพิพากษา จึงเป็นการเสนอตัวภายใต้ความพร้อมใหม่

ความแหลมคมอย่างยิ่งยวดก็คือ สังคมไทยมีความพร้อมอย่างเพียงพอที่จะบริหารจัดการ และทำความเข้าใจกับปัญหาอันเป็นความขัดแย้งแตกแยกอย่างยาวนานนี้หรือไม่

เพราะในที่สุดแล้วปัญหานี้มิได้เป็นเรื่อง “ส่วนตัว”

เพราะในการเคลื่อนไหวทางการเมืองแทบจะทุกพื้นที่ล้วนไม่อาจแยกขาดจากกรณีของ นายทักษิณ ชินวัตร

ไม่อาจแยกขาดจากการดำรงอยู่ของพรรคเพื่อไทย