FootNote:การเมือง เรื่อง รวมไทยสร้างชาติ อาการ ประดิดประดอย การเมือง

ไม่ว่าการมอบหมายให้ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เดินทางไปเป็นตัวแทนผ่าน “สภาเครือข่ายประชาชน” ท่ามกลางผู้มาต้อนรับนับหมื่นคนที่นครราชสีมา

ไม่ว่าการบินไปด้วยตัวเองและลงมือผัดหมี่ แล้วตักมอบให้กับผู้ว่าราชการจังหวัดที่ปัตตานี

ทั้งหมดนี้ล้วนสะท้อน “ภาวะผู้นำ” อย่างเฉียบขาด มั่นคง

แน่นอน บทบาทที่ปัตตานีเป็นบทบาทของรองนายกรัฐมนตรี ซึ่งกำกับงานนโยบายทางด้านเศรษฐกิจ ซึ่งสัมพันธ์กับชีวิตของประชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้

ขณะเดียวกันบทบาทที่นครราชสีมา เป็นบทบาทที่เคยกระทำผ่าน “สภาเครือข่ายประชาชน” ในห้วงที่ดำรงตำแหน่งเป็นรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม

เกิดคำถามตามมาอย่างฉับพลันทันใดว่า เหตุใดต่อสภาเครือข่ายประชาชนจึงต้องมอบบทบาทให้กับ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เหตุใดที่ปัตตานีจึงต้องบินไปด้วยตนเอง

ทั้งหมดนี้ไม่มีคำอธิบายจาก พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ทุกอย่างล้วนปล่อยให้ค้นหาคำตอบเอาเอง

จาก “รองนายกรัฐมนตรี” จาก “หัวหน้า” พรรคพลังประชารัฐ

น่าสนใจก็ตรงที่ไม่ว่าภาพจากนครราชสีมา ไม่ว่าภาพจากปัตตานี ล้วนแต่ถูกผูกโยงเข้าไปยังบทบาท และการเคลื่อนไหวของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา โดยมิได้นัดหมาย

ไม่ว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะมีความเรียกร้องต้องการหรือไม่ก็ตาม

เพราะว่าเป็นลีลา พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ มั่นคง

เส้นทางของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ มีความชัดเจน ไม่ว่าจะเล่นบทรองนายกรัฐมนตรี ไม่ว่าจะเล่นบทหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ เดินหน้าตามยุทธศาสตร์ที่กำหนดวางเอาไว้ครบถ้วน

ตรงกันข้าม เส้นทางของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ตั้งแต่ก่อนไปและหลังกลับจากเบลเยี่ยม กลับก่อให้เกิดคำถามตามมามากมายว่า จะเอาอย่างไรกันแน่

นั่นก็คือ จะเอาอย่างไรกับพรรครวมไทยสร้างชาติของตน

สังคมมองเห็นความชัดเจนจาก พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ขณะที่สังคมเรียกร้องความชัดเจนจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา แต่กลับไม่เคยได้รับ

ตกลงพรรครวมไทยสร้างชาติเป็นพรรคการเมืองของใคร

จะจัดวางบทบาทของ นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค อย่างไร

เด่นชัดยิ่งว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา กำลังแสดงบทนับกลีบดอกไม้อย่างประดิดประดอยมากกว่า

ยิ่งเทียบกับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ยิ่งแตกต่างชัดเจน