FootNote:การสร้างภาพ โอบกอด ลูบพุง พังครืน เบื้องหน้า กรณี ‘จะนะ’
ไม่ว่าจังหวะก้าว พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา โอบกอด และยื่นมือเข้าไปลูบบริเวณพุง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ โดยมี พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา จับแขนด้วยความรัก ความผูกพัน
ไม่ว่าจังหวะก้าวที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ยกขบวนไปยังสุพรรณบุรี โดยมีพรรคชาติไทยพัฒนาต้อนรับอย่างอบอุ่น
เด่นชัดยิ่งเป็นจังหวะก้าวทางการเมือง ต้องการสร้างภาพ
เป็นภาพแห่งความรักความผูกพันระหว่าง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นภาพแห่งการเอื้ออวยระหว่างรัฐบาลกับพรรคร่วมรัฐบาล
แต่ถามว่าภาพและการเคลื่อนไหวเหล่านี้ประสบความสำเร็จ ตามเป้าหมายที่มีการตระเตรียมและจัดวางเอาไว้หรือไม่ สังคมขานรับเหมือนกับความปรารถนาของฝ่ายการเมืองหรือไม่
สังคมให้ความสนใจและเป็นความสนใจอย่างรู้เท่าทัน
รู้เท่าทันว่าเป็นการสร้างภาพ รู้เท่าทันว่าเป็นแผนอย่างที่ศัพท์ในทางการทหารเรียกว่า ‘ปฏิบัติการจิตวิทยา’
เป้าหมายก็เพื่อกลบเกลือนรอยร้าว ที่ดำรงอยู่อย่างเป็นจริง
ปัจจัยหนึ่งที่ทำให้ปฏิบัติการจิตวิทยานี้ดำเนินไปเหมือนกับการแสดงละคร พลันที่มีการสลายและจับกุมชาวจะนะจากพื้นที่หน้าทำ เนียบรัฐบาล ไปยัดข้อหาอย่างรุนแรง
ร่องรอยแห่งความขัดแย้งก็ปรากฏผ่านการออกมาปฏิเสธ ‘บันทึกช่วยจำ’ ที่เคยทำเอาไว้เมื่อเดือนธันวาคม 2563
นั่นเท่ากับเป็นการตอกย้ำและขยายความขัดแย้งเดิมระหว่าง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา กับ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ซึ่งปฏิบัติตามคำบัญชาของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ
ความหมายก็คือ นั่นคือการสมคบคิดและหลอกลวงครั้งมโหฬาร ที่รัฐบาลปฏิบัติต่อชาวบ้านที่เดินทางมาเรียกร้อง
นั่นเท่ากับเปิดโปงความเป็นจริงแห่ง ‘ระบอบประยุทธ์’ ออกมา
ภาพแห่งความขัดแย้งจากกรณีจะนะก็ขยาย และบานปลายออกไปเมื่อมีคำวินิจฉัยจากตุลาการศาลรัฐธรรมนูญให้ ส.ส. 2 คนสิ้นสมาชิกภาพ เนื่องจากก่ออาชญากรรมต้านการเลือกตั้ง
เท่ากับเป็นการส่งสัญญาณแห่งการต่อสู้เอาชนะทางการเมือง
ส่งผลให้พรรคพลังประชารัฐต้องปะทะกับพรรคประชาธิปัตย์ โดยมิอาจหลีกเลี่ยงได้พ้น กลายเป็นความขัดแย้งภายในรัฐบาล
ทุกอย่างล้วนเปิดโปงตัวตนแห่ง ‘ระบอบประยุทธ์’ ออกมา