FootNote:กระแส จาก ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ วูบวาบ พีอาร์ หรือคือ ผลงาน

มีการแสดงความเป็นห่วงว่าความนิยมที่มีต่อ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ อันเกิดขึ้นและกลายเป็น “กระแส” ในขณะนี้จะนำไปสู่สภาวะที่เรียกว่าเป็น “ลัทธิบูชาตัวบุคคล”

แม้จะถูกมองและประเมินจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ว่าเป็นเพียงสถานการณ์อันเกิดกับจังหวัดๆหนึ่ง คนๆหนึ่ง

และได้รับการประสานรับอย่างพร้อมเพรียงกันจากบรรดาลูกคู่จากภายในพรรคพลังประชารัฐ ว่าเป็นเรื่องที่วูบวาบ ชั่วครั้งชั่วคราวจากอิทธิพลในการพีอาร์ ที่สุดแล้วก็จะจางจากหายไป

หายไปเหมือนกับกระแสที่เคยมีกับ พล.ต.จำลอง ศรีเมือง หายไปเหมือนกับกระแสที่เคยมีกับ นายทักษิณ ชินวัตร หายไปเหมือนกับกระแสที่เคยมีกับ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ

คำถามที่แหลมคมเป็นอย่างมากก็คือ ความตื่นเต้นและขานรับต่อ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ มีรากฐานมาจากอะไร เป็นเรื่องของกระบวนการพีอาร์ประชาสัมพันธ์หรือมาจากรากฐานของการประพฤติปฏิบัติบนพื้นฐานแห่ง

แนวทาง “ทำงาน ทำงาน ทำงาน” อย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย ประสานคำพูดกับการกระทำอย่างเป็นเอกภาพ

คำตอบของเรื่องนี้แน่นอนย่อมมิได้อยู่ในสายลม หากแต่ขึ้นอยู่กับความเป็นจริงของ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ เป็นสำคัญ

มีการตั้งประเด็นว่า คะแนนและความนิยมต่อ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ น่าดำเนินไปในกระสวนแห่ง “ข้าวใหม่ ปลามัน”เมื่ออยู่ในช่วงแห่งการดื่มน้ำผึ้งพระจันทร์ก็ย่อมจะวูบวาบเป็นธรรมดา

หากพ้นระยะจากในห้วง 1 เดือนหลังการเลือกตั้งทุกอย่างก็จะดำเนินไปในสภาพธรรมดาอย่างปกติ

เพราะลำพังการไลฟ์อย่างที่ฮือฮากันในเบื้องต้น หากดำเนินไปในลักษณะทำซ้ำก็ย่อมจะซ้ำซาก จำเจและยอดการติดตามย่อมจะลดน้อยถอยลงอย่างแน่นอน

คำถามก็คือ เนื้อหาการเคลื่อนไหวของ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ เป็นการผลิตซ้ำอย่างซ้ำซากหรือไม่ หรือว่าเปลี่ยนคอนเทนต์ ไปตามสถานการณ์ของแต่ละวัน

ในที่สุดแล้ว “คอนเทนต์”และเป้าหมายต่างหากที่จะกำหนด

นั่นก็คือการเคลื่อนไหวของ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ มุ่งเพื่อโปรโมท ตัวเอง หรือว่าอาศัยเป็นเครื่องมือนำไปสู่การทำงานตามนโยบายที่กำหนดเอาไว้ 200 กว่านโยบาย

ตัวของ “นโยบาย” นั่นแหละคือเครื่องชี้วัดอย่างเด่นชัด

หากเป็นไปตามนโยบายและดำเนินไปบนพื้นฐานเพื่อทุกข์สุขของประชาชน คอนเทนต์นี้ก็จะกลายเป็น “จุดแข็ง”ทันที

ทุกอย่างจึงขึ้นอยู่กับหลักการ “ทำงาน ทำงาน ทำงาน”