FootNote:เบื้องหน้า รถไฟฟ้าสายสีเขียว “ชัชชาติ” อาศัยพลัง “มวลชน”

ลำพังการใช้เวลาในการวิ่งออกทักทายและเรียกขานบรรดาคนกวาดถนนว่าเป็น “เพื่อนร่วมงาน” ก็เรียกเสียงกรี๊ดดังกึกก้องในโลกแห่งโซเชียลมีเดียอยู่แล้ว

นี่ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ยังจัดงานสังสรรค์และรับประทาน อาหารร่วมกับ “นักวาด” ทั้งกรุงเทพมหานครอีกด้วย

ไม่ว่าบรรดากองเชียร์ “อัศวิน” ที่อยู่ในสำนักข่าว T ไม่ว่าบรรดากองหนุน “อัศวิน” ที่อยู่ในสำนักข่าว N ต่างล้วนตกอยู่ในอาการนะจังงังโดยถ้วนหน้า

เป็นความนะจังงังตั้งแต่เช้าวันที่ 23 พฤษภาคม เป็นความนะจังงังจากทุกการเคลื่อนไหวในรอบ 1 เดือน หลังการได้ฉันทานุมัติกว่า 1.3 ล้านเสียงของคนกทม.

ยิ่งคล้อยหลังพระพิรุณหลั่งพรูลงมาเพียง 10 นาที ต่อจากนั้นก็พบเห็นเงาร่าง นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ไม่ว่าจะที่ห้วยขวาง ไม่ว่าจะที่ลาดพร้าว

แม้เมื่อประสบเข้ากับความยอกย้อนของโรงงานกำจัดขยะ ประสานเข้ากับความแยบยลของโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวอาจ ทำให้เกิดอาการงันชะงักไปบ้าง

กระนั้น ด้วยเวลาอันรวดเร็ว นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ก็ปรับกลยุทธ์อย่างฉับพลันทันใด จนตื่นตะลึงไปทั้งอาคารกทม.

พลันที่มีเสียงจาก ส.ส.พรรคภูมิใจไทย ในเรื่องคำสัญญาระหว่างการหาเสียง ผนวกเข้ากับข้อท้วงติงอย่างมีน้ำหนัก จากสภาองค์การผู้บริโภคในเรื่องค่ารถไฟฟ้า

ด้านหนึ่ง นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ เดินทางไปพบคนของสภาผู้บริโภคอย่างฉับพลันทันใด

ด้านหนึ่ง ใช้ทุกช่องทางในการเอ่ยถึงความสลับซับซ้อนที่ดำรงอยู่ใน “สัญญา” ไม่ว่าจะเป็นโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ไม่ว่าจะเป็นโรงงานกำจัดขยะ

เห็นได้จากการใช้ทุกช่องทางทั้งที่เป็น “ฟรีทีวี” ทั้งที่เป็น “โซเชียลมีเดีย” ในการทำความเข้าใจ และชี้ให้เห็นเงื่อนงำการลงนามในสัญญาที่ล่วงหน้าไปถึง 2580

เป็นเรื่องใน “อดีต” เป็นเรื่องของผู้ว่าฯกทม.คนก่อนหน้านี้

แท้จริงแล้ว กลยุทธ์ในการ “ทำงาน ทำงาน ทำงาน” ของ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ มิได้ดำเนินไปในแบบ “ข้ามาคนเดียว” หากแต่อิงอยู่กับ “มวลชน” แนบแน่น

ไม่เพียงในหมู่ “เพื่อนร่วมงาน” หากแม้กระทั่งในทาง “สังคม”

ทำไมจึงต้องไปวอยซ์ทีวี ทำไมจึงต้องไป เดอะแสตนดาร์ด ทำไมจึงต้องสื่อตรงไปยังไทยพีบีเอส และพี่สรยุทธ

นั่นก็คือ การเดินแนวทาง “มวลชน” เพื่ออาศัย “พลัง”