FootNote:อาณัติ ส่งผ่าน ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ เสียงเตือน ประยุทธ์ จันทร์โอชา
แม้จะมีความเชื่อมั่นเป็นอย่างสูงจากที่แทบทุกโพลสะท้อนออกอย่างต่อเนื่องว่า คะแนนและความนิยมของ นายชัชชาติ สิทธิ พันธุ์ จะทำให้ได้รับเลือกจากคนกทม.อย่างแน่นอน
กระนั้นบรรดา “เกจิ” ทางการเมืองก็เตือนว่า อย่าได้มองข้าม พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง และ นายสกลธี ภัททิยกุล เด็ดขาด
ยิ่งเมื่อบรรดาพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยระดับ พล.ต.จำลอง ศรีเมือง นายสนธิ ลิ้มทองกุล นายพิภพ ธงชัย ออกมาสนับสนุน น.ส.รสนา โตสิตระกูล ยิ่งเสริมความหนักแน่น
เพราะว่าสังคมเห็นอย่างเด่นชัดว่า เบื้องหลัง พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง เบื้องหลัง นายสกลธี ภัททิยกุล มีอำนาจอันแข็งแกร่งที่มากับรัฐประหารเมื่อเดือนพฤษภาคม 2557 ยืนทะมื่นอยู่
การได้ดำรงตำแหน่งผู้ว่าฯ กทม.ของ พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ก็มาจากอำนาจของมาตรา 44 การได้ดำรงตำแหน่งรองผู้ว่าฯกทม.ของ นายสกลธี ภัททิยกุล ก็ภายหลังเดินเข้าทำเนียบรัฐบาล
จึงเท่ากับคนเหล่านี้มีพลังจากรัฐประหารเดือนกันยายน 2549 กับ รัฐประหารเดือนพฤษภาคม 2557 ปกป้อง คุ้มครอง
ไม่ว่าการเลือกวันอาทิตย์ที่ 22 พฤษภาคม เป็นวันเลือกตั้งเพื่อชิง ตำแหน่ง “ผู้ว่าฯกทม.” จะมาจากเหตุผลตามกฎหมายหรือเหตุผลในเชิงโหราศาสตร์
โดยการตอกย้ำและยืนยันให้เกิดนัยประหวัดไปยังสถานการณ์เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2557
แต่คำตอบอันปรากฏผ่านคะแนนของ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ และคำตอบอันปรากฏผ่านคะแนนของผู้สมัคร ส.ก.ทั้งของพรรคเพื่อไทย พรรคก้าวไกล พรรคไทยสร้างไทย ก็มีความเด่นชัด
ในเมื่อคะแนน นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ก็เหนือกว่าคะแนนของ พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง เหนือกว่าคะแนนของ นายสกลธี ภัททิย กุล เหนือกว่าคะแนนของ น.ส.รสนา โตสิตรกูล
และคะแนนส.ก.ของพรรคเพื่อไทย ของพรรคก้าวไกล ของพรรคไทยสร้างไทย เมื่อผนวกรวมกันเข้าก็เหนือกว่าพรรคพลังประชารัฐ พรรคประชาธิปัตย์ หรือกลุ่มรักษ์กรุงเทพ อย่างขาดลอย
ผลอันปรากฏผ่านการลงคะแนนเสียงเลือกไม่ว่าต่อผู้ว่าฯกทม. ไม่ว่าต่อส.ก. ตอกย้ำและยืนยันอย่างเด่นชัดว่า มีความสัมพันธ์กับเหตุการณ์เมื่อเดือนพฤษภาคม 2557 แน่นอน
ทั้งยังสัมพันธ์กับเหตุการณ์เมื่อเดือนกันยายน 2549 อีกด้วย
จำนวนคะแนนทั้งหมด เท่ากับเป็นการแสดงประชามติต่อรัฐประหาร อันเกิดขึ้นทั้ง 2 คราว ต่อเนื่องกันอย่างตรงไปตรงมา
เท่ากับเป็นการส่งเสียงเตือน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา