FootNote:วิถีเปลี่ยนแปลง พลังประชารัฐจุดตัด จาก ประวิตร วงษ์สุวรรณ

เพียงไม่กี่วินาทีหลังปฏิบัติการ “ปล่อยข่าว” ในเรื่อง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะสมัครเข้าเป็นสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ เพื่อเตรียมทะยานขึ้นเป็นหัวหน้าพรรคก็มีความแจ่มชัด

มิได้เป็นความแจ่มชัดจากคนที่ “แวดล้อม” อยู่โดยรอบเงาร่าง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เท่านั้น

หากที่สำคัญเป็นอย่างมากจาก “ภายใน” พรรคพลังประชารัฐ

ไม่ว่าจะเป็น พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ไม่ว่าจะเป็น นายสมศักดิ์ เทพสุทิน ไม่ว่าจะโดยเฉพาะอย่างยิ่งจาก นายไพบูลย์ นิติตะวัน ยืนยัน “แหล่ง” ที่มาของ “ข่าวปล่อย” ได้อย่างดี

ภายใต้คำตอบ “ไม่รู้” ของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ได้รับการยืนยันว่ามีเป้าหมายอย่างไร หากอ่านระหว่างบรรทัดจากทั้ง นายสมศักดิ์ เทพสุทิน และนายไพบูลย์ นิติตะวัน

ยิ่งนำมาปรับประสานเข้ากับท่าทีที่จิตหนึ่งใจเดียวเพื่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จาก นายสกลธี ภัททิยกุล และ นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ยิ่งได้คำตอบอย่างทะลุปรุโปร่ง

ทุกอย่างอันกำลังเกิดขึ้นกับ “ข่าวปล่อย” ถึงจังหวะก้าวทางการเมืองก้าวต่อไปของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา

เข้าลักษณะ “นอนเตียงเดียวกัน” แต่ “ฝันคนละเรื่อง”

หากจับจังหวะก้าวของ นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ตั้งแต่ยังนั่งเป็นกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี และได้รับมอบหมายให้ทำงานในลักษณะเป็น “หน่วยเฉพาะกิจ” ในเรื่องสลากกินแบ่งก็จะเข้าใจ

1 เข้าใจว่าเป้าหมายของ “หน่วยเฉพาะกิจ” นี้อยู่ที่ใคร 1 เข้าใจว่าเป้าหมายของ นายเสกสกล อัตถาวงศ์ คืออะไร

ทุกอย่างยังเนื่องแต่สถานการณ์เดือนกันยายน 2564

เหตุผลของการตระเตรียมในเรื่องพรรคไทยสร้างชาติที่สำคัญอยู่กับจะตระเตรียมเพื่อมิให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ถูกกดดันในแบบที่เคยถูกกดดันมาแล้ว

ทั้งหมดนี้คือลักษณะ “ต่อรอง” เพื่อให้เกิดการเปรียบเทียบ และที่สำคัญก็เพื่อรุกไล่บางคนและเคลียร์พื้นที่ให้ “นาย” ในการรุกเข้าไปยึดพรรคพลังประชารัฐ

เป็นไปอย่างที่ โทนี วู้ดซัม ระบุ “ถามป้อม” แล้วหรือยัง

ปฏิบัติการ “ปล่อยข่าว” ครั้งนี้ตรวจสอบได้ไม่ยาก ไม่เพียงแต่ตัวของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะเป็นคำตอบ หากแต่เส้นทางของ นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ในพรรคพลังประชารัฐก็สำคัญ

ถามว่าจะดำเนินไปอย่างราบรื่นเรียบร้อยเพียงใด

จะดำรงสถานะแห่ง “สมาชิกภาพ” เฉยๆ หรือต้องผ่านกระบวนการตรวจสอบอย่างเข้มงวด จากคณะกรรมการวินัยและข้อบังคับพรรค

เพราะคำตอบสุดท้ายคือ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เท่านั้น