FootNote:ยุทธการ เตะตัดขา แลนด์สไลด์ พลังประชารัฐ จับมือ “เพื่อไทย”

การออกมาปล่อยความคิดในเรื่องสูตรจัดตั้งรัฐบาล พรรคพลังประชารัฐ พรรคภูมิใจไทย พรรคเพื่อไทย ไม่ว่าจะจากกุนซือของ “พี่ใหญ่” ไม่ว่าจะจาก “ครูใหญ่” แห่งพรรคภูมิใจไทย

ด้านหนึ่ง เป็นการโยนหินถามทาง ขณะเดียวกันด้านหนึ่งก็เป็นการทดสอบหยั่งเชิง อุณหภูมิในทางการเมือง

อาจยังไม่ได้คำตอบจากพรรคพลังประชารัฐ อาจยังไม่ได้คำตอบจากพรรครวมไทยสร้างชาติ แต่ก็สามารถสัมผัสได้จากคำตอบจากพรรคเพื่อไทย

อย่างน้อย นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ก็ออกมายืนยันหลักการพื้นฐานของพรรคอยู่ที่ผลการเลือกตั้ง และยังหนักแน่นอยู่กับยุทธศาสตร์ “แลนด์สไลด์” อย่างไม่แปรเปลี่ยน

ขณะที่บรรดา “เกจิ” ทางการเมืองต่างออกมาขานรับด้วยความคึกคักอย่างเป็นพิเศษ บนแนวความคิดที่ “ครูใหญ่” ยกขึ้นมาอ้างอิง นั่นก็คือไม่มีมิตรแท้และศัตรูถาวรทางการเมือง

ความหมายย่อมหมายความว่าโอกาสที่พรรคพลังประชารัฐกับพรรคเพื่อไทยจะจับมือ หรือพรรคเพื่อไทยจะจับมือกับพรรคภูมิใจไทย ล้วนมีความเป็นไปได้

หากไม่มีชี่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา มาเป็น “ปัจจัย”

คนที่คร่ำหวอดทางการเมืองระดับ นายเสนาะ เทียนทอง หรือ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง หรือแม้กระทั่ง พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ล้วนเคยเห็นการแปรเปลี่ยนทางการเมืองมาแล้ว

เห็นพรรคประชากรไทยหักหัวเรือหนุน นายชวน หลีกภัย เป็นนายกรัฐมนตรีในเดือนพฤศจิกายน 2540

เห็น นายสุเทพ เทือกสุบรรณ สามารถตกลงร่วมกับ นายเนวิน ชิดชอบ และทำให้บังเกิดภาพ นายเนวิน ชิดชอบ โอบกอด นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ มาแล้วเมื่อเดือนธันวาคม 2551

พรรคประชาธิปัตย์ที่ประกาศไม่ร่วมสังฆกรรมกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ก็ลงมติร่วมขานชื่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรีในเดือนมิถุนายน 2562

แนวคิดที่จะสร้างพันธมิตรระหว่างพรรคพลังประชารัฐ พรรคภูมิใจไทย พรรคเพื่อไทย จึงมิได้เป็นเรื่องที่จะเป็นไปไม่ได้

คำถามที่จะต้องนำมาขบคิดภายหลังปฏิบัติการ “โยนหินถามทาง” ครั้งสำคัญนี้จึงอยู่ที่ว่า หากพรรคพลังประชารัฐ พรรคภูมิใจไทย สามารถจับมือร่วมรัฐบาลกับพรรคเพื่อไทย

ใครเป็น “นายกรัฐมนตรี” และใครจะเป็นผู้ได้ “ประโยชน์”

เหมือนกับข้อเสนอนี้จะสามารถปรากฏเป็นจริงได้ ก็ภายหลังการเลือกตั้งปรากฏแล้วในปี 2566 ถามว่าเหตุใดจึงเสนอขึ้นมาล่วงหน้าเป็นเวลามากกว่า 3 เดือน

เป้าหมายอยู่ที่พรรคพลังประชารัฐ พรรคภูมิใจไทย หรือพรรคเพื่อไทย