FootNote:ภาพข่าวการไปเยือนอุดรธานี มีทั้งกราบตีน กับเสียง’ออกไป’
มีความคึกคัก หนักแน่นอย่างยิ่งในการตระเตรียม 2 มาตรการเพื่อรับมือกับการไปเยือนอุดรธานีของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา กับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ
ตระเตรียมถึงขนาดมีการซ้อมยกป้าย ซ้อมการเปล่งคำขวัญ ประสานเข้ากับตำรวจหญิงในเครื่องแบบใหม่เอี่ยม
ไม่เพียงเพราะว่าอุดาธานี ถือได้ว่าเป็นพื้นที่ในเขตอิทธิพลของคนเสื้อแดง หากแต่จากการเลือกตั้งเมื่อเดือนมกราคม 2544 เรื่อยมา ส.ส.อุดรธานีล้วนอยู่ในเครือข่าย ‘ทักษิณ’
ไม่ว่าจะในชื่อพรรคไทยรักไทย ไม่ว่าจะในชื่อพรรคพลังประชาชน ไม่ว่าจะในชื่อพรรคเพื่อไทย จึงมีความจำเป็นต้องเตรียมพร้อมในอัตราสูงสุดทางการเมืองทางการทหาร
มิเช่นนั้นแล้ว โอกาสที่จะปรากฏสถานการณ์ร้องตะโกน ‘ออกไป ออกไป’ เหมือนที่ชัยภูมิและพระนครศรีอยุธยาตามมา
บทบาทของกระทรวงมหาดไทยจึงต้องเข้มงวดอย่างเป็นพิเศษ
ประสานกันไปกับบทบาทของ ‘ลูกแหล่งตีนมือ’ อันเคยกุมเครือข่ายของ ‘คนเสื้อแดง’ ในพื้นที่ของอุดรธานีและภาคอีสาน
ต่อการเคลื่อนไหวของมวลชนจำนวนหนึ่ง ซึ่งออกมาแขวนป้ายตามสะพานลอยในย่านชุมชน และออกเดินไปตามท้องถนนสามารถนำ เอากำลังของหน่วยควบคุมฝูงชนเข้าจัดการ
ทั้งด้วยการติดตามตัวอย่างลับๆ ก่อนหน้าการมาเยือนและเข้า รวบรัดสะบัดพลทันทีที่ปรากฏตัวขึ้นบนท้องถนน
กระนั้นที่จัดการยากเป็นอย่างยิ่งคือมวลชนอันเป็นเสมือน ‘นา ตาชา’ ภายในขบวนต้อนรับ เพราะพลันที่ปรากฏเสียงและเสนอแนะว่าหากพัฒนาไม่ได้เหตุใดไม่ ‘เกษียณ’เพื่อเปิดทางให้คนอื่นเข้ามา
ใครที่ติดตามดูคลิปจากการนำเสนอของฟรีทีวีบางช่องก็สัมผัส ได้ในอาการเลิ่กลั่กปรับตัวไปไม่ได้เป็นของนายกรัฐมนตรี
ประเด็นมิได้อยู่ที่ช่องว่างรอยโหว่ หากอยู่ที่การเป็น ‘ข่าว’
ตัวอย่างจากการเปิดยุทธการ ‘ช้างเหยียบนา พระยาเหยียบเมือง’ ที่อุดรธานีสะท้อนออกอย่างเป็นรูปธรรมว่า ถึงจะรวบอำนาจเข้มเพียง ใดก็ไม่สามารถควบคุมสื่อและข่าวได้อย่างเบ็ดเสร็จ
ไม่เพียงเพราะมี ‘ฟรีทีวี’ หากที่สำคัญก็คือ สื่อ ‘ออนไลน์’
การดำรงอยู่ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ จึงมิได้ปรากฏแต่ด้านที่มีคนเข้าไปกราบแทบเท้า
ตรงกันข้าม เสียงตะโกน ‘ออกไป ออกไป’ ก็ดังขึ้นกึกก้อง