เด็กฝึกอีกคนหนึ่งที่ได้รับความสนใจจากคนทั่วไป ก่อนรายการ CHUANG ASIA THAILAND จะเปิดม่านเสียอีก คงหนีไม่พ้น EMMA สาวน้อยเด็กฝึกจากประเทศจีน ที่เจ้าตัวได้พกพาความสามารถและความน่ารักมาด้วยแบบเต็มกระบุง จนสามารถตกแฟนคลับได้มากมาย และกลายเป็นอีกหนึ่งคนที่แฟนรายการพร้อมเอาใจช่วยอยู่เสมอ

แต่เบื้องหลังความน่ารักของ EMMA ที่หลายคนไม่อาจต้านทานได้ ก็ซุกซ่อนเรื่องราวการเดินทางของเด็กสาวที่มีความฝัน และความรักในการเต้นที่ทำให้ EMMA มายืนอยู่ใน TOP 9 ของรายการ CHUANG ASIA THAILAND ในตอนล่าสุด Sanook นั่งคุยสุดเอ็กซ์คลูซีฟกับ EMMA เพื่อทำความรู้จักสาวน้อยสุดน่ารักที่หลายคนตกหลุมรักแบบไม่ทันได้ตั้งตัว

Q: คำนิยามของคำว่า “ไอดอล” ของ EMMA คืออะไร

EMMA: หนูว่าไอดอลคือคนที่สามารถส่งพลังและเปล่งประกายเมื่ออยู่บนเวที พอลงจากเวทีก็ยังมีอิทธิพลกับแฟนคลับค่ะ อาจจะพูดได้ว่าไอดอลคือคนที่สามารถทำการแสดงได้อย่างสมบูรณ์แบบบนเวที ไม่ทำผิดพลาดบนเวที และเปล่งประกายแบบนั้นก็ได้ค่ะ อย่างวอนยองที่เป็นไอดอลของหนู ก็เป็นคนที่สามารถเปล่งประกายได้เมื่ออยู่บนเวที และทุกครั้งที่วอนยองอยู่บนเวที เราจะรู้ได้เลยว่าคนนี้แหละคือไอดอลตัวจริง 

Q: พูดได้ไหมว่าวอนยองคือคนที่เป็นแรงบันดาลใจให้ EMMA ตัดสินใจมาร่วมรายการ CHUANG ASIA THAILAND

EMMA: ก็มีส่วนนะคะ เพราะตอนปี 2020 หนูดูรายการแข่งขันไอดอลแบบนี้ แล้วหนูก็รู้สึกสนใจอยากมาร่วมรายการแบบนี้มากๆ แต่แม่ของหนูบอกว่ายังไม่ถึงเวลา ให้หนูรอไปก่อน (หัวเราะ)

Q: พอได้มาร่วมแข่งขันในรายการ CHUANG ASIA THIALAND แล้ว อะไรคือความท้าทายมากที่สุดในความคิดของ EMMA 

EMMA: ความท้าทายที่สุดของการเป็นเด็กฝึกในรายการนี้ คือการแก้ไขรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ เรื่องการเต้นของตัวเองค่ะ เพราะหนูชอบขยับหัวตอนเต้นค่ะ แล้วมันออกมาไม่สวยเลยเวลาที่หนูดูในกล้อง หลายครั้งที่ไปเช็กกล้องหลังเต้นเสร็จ หนูเห็นได้เลยว่าตัวเองยังเต้นได้ไม่ดีพอ มันเลยเป็นความท้าทายที่สุดของหนูเลย

Q: แล้วมีการแสดงไหนบ้างไหมที่ EMMA รู้สึกว่ายากจังเลย

EMMA: สำหรับหนูไม่มีเพลงไหนที่เต้นยากที่สุดค่ะ จะมีก็แต่เพลงที่ยากจะเต้นให้ดี ซึ่งเพลงนั้นคือเพลง Do You ตอนสเตจที่สองของหนูค่ะ คือก่อนครูสอนเต้นจะมา พวกเราก็เริ่มแกะท่าและซ้อมเต้นกันเองก่อน ซึ่งหนูก็รู้สึกว่ามันไม่ได้ยากอย่างที่คิด และหนูก็น่าจะเต้นได้ดี แต่พอครูมา ครูก็แนะนำว่าต้องทำยังไงบ้าง จนจากที่คิดว่าไม่น่าจะยาก กลับกลายเป็นยากสำหรับหนูที่จะเต้นให้ดี แถมเรายังมีเวลาซ้อมไม่มาก ก็เลยเป็นความท้าทายมากๆ สำหรับหนูเหมือนกัน แต่สุดท้ายหนูก็ทำได้ดีนะคะ แค่คิดว่าถ้าเรามีเวลามากกว่านี้อีกนิด หนูน่าจะทำได้ดีกว่านั้น

Q: การขึ้นแสดงแต่ละครั้งก็ต้องมีการทำงานร่วมกับเด็กฝึกคนอื่นๆ บ้าง ตรงนี้เป็นความท้าทายของ EMMA บ้างไหม

EMMA: ไม่เลยค่ะ ถึงแม้ว่าหนูจะเต้นคัพเวอร์คนเดียวมาก่อน แต่หนูก็มีประสบการณ์ในการทำงานร่วมกับคนอื่นมาก่อน อย่างตอนเด็กๆ หนูก็เต้นรำแบบจีน หรือตอนไปแข่งเต้นกับเพื่อนๆ ที่หนูก็ผ่านมาหลายเวทีแล้ว หนูเลยได้ทำงานร่วมกับคนอื่นเยอะแยะเลย ดังนั้น การทำงานร่วมกับเด็กฝึกคนอื่นๆ ในรายการนี้ก็เลยไม่ใช่ปัญหาหรือความท้าทายของหนูสักเท่าไร

Q: EMMA เริ่มเต้นรำแบบจีนมาตั้งแต่ตอนไหนคะ

EMMA: ตอนหนูอายุ 3 ขวบค่ะ เรียกว่ามันเป็นโอกาสที่ดีมากๆ เลยนะคะ เพราะหนูมีเพื่อนสมัยอนุบาล แล้วแม่ของเขาก็เป็นครูสอนเต้นรำแบบจีนนี่แหละค่ะ แม่ของหนูก็เลยส่งหนูไปเรียนเต้น ซึ่งหนูก็เต้นรำแบบนี้มาจนถึงปี 2020 เลยนะคะ จากนั้นหนูจึงเริ่มเปลี่ยนสไตล์การเต้นของตัวเอง มาเป็นการเต้นคอนเทมโพรารี เต้นแจ๊ส และเต้นฮิปฮอป เนื่องจากหนูได้เจอครูอีกคนที่ช่วยแนะนำ แล้วจากนั้นหนูก็ไปสหรัฐอเมริกาเพื่อเรียนการเต้นและพัฒนาตัวเองค่ะ

Q: แล้วถ้าพูดถึงช่วงเวลาที่ EMMA คิดว่าจะไม่มีวันลืมเลยระหว่างการเป็นเด็กฝึกในรายการ CHUANG ASIA THAILAND ล่ะ มันคือช่วงเวลาไหนเหรอคะ

EMMA: ตอนที่เราถ่ายทำเอ็มวีเพลง Summer Dream ค่ะ มันเป็นช่วงที่พลุกระดาษล่องลอยอยู่ในอากาศ แล้วก็ค่อยๆ ตกลงพื้น หนูยืนมองดูพวกมัน แล้วก็คิดกับตัวเองว่าเด็กผู้หญิงมากมายมารวมตัวกัน ทุกคนตั้งใจอย่างหนักเพื่อคว้าความฝันของตัวเอง นั่นคือสิ่งที่หนูจะไม่มีวันลืมเลยล่ะค่ะ นอกจากนี้ ทุกครั้งที่หนูได้เรียนรู้การเต้นแบบใหม่ๆ ก็เป็นอีกช่วงเวลาที่ทำให้หนูมีความสุขและจะไม่ลืมเหมือนกัน เพราะหนูชอบเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ค่ะ นิสัยหนูเป็นแบบนี้แหละ คือถ้าให้ทำอะไรซ้ำๆ หนูจะเบื่อค่ะ แต่ถ้าได้เรียนรู้อะไรใหม่ๆ หนูจะตื่นเต้นและอยากทำมากๆ ก็เลยคิดว่าช่วงเวลาพวกนี้จะติดอยู่ในความทรงจำหนูตลอดไป

ติดตามรายการ CHUANG ASIA THAILAND ทุกวันเสาร์ เวลา 21.30 น. ทางช่อง one31 และ Uncut Version เวลา 22.00 น. ทาง WeTV