เมื่อเร็ว ๆ นี้ สื่อนอกได้ออกมาตีข่าวว่า บริษัทยักใหญ่อย่าง Cox Media Group (CMG) บริษัทที่เป็นพันธมิตรแพลตฟอร์มชื่อดังมากมาย ได้ออกมาเปิดโปง เฟซบุ๊ก (Facebook), กูเกิล (Google) และ อเมซอน (Amazon) ว่าแอบดักฟังผู้ใช้งานบนสมาร์ทโฟน ผ่านซอฟต์แวร์ “Active Listening” โดยมีจุดประสงค์เพื่อยิงโฆษณาให้ตอบโจทย์ และทุกอย่างถูกกฎหมาย
โดย CMG ใช้ซอฟต์แวร์ “Active Listening” และปัญญาประดิษฐ์ (AI) ในการดักจับ “ข้อมูลแบบเรียลไทม์” จากนั้น AI ก็จะวิเคราะห์ข้อมูลที่เก็บรวบรวมได้จากกว่า 470 แหล่ง โดยผู้บริโภคจะทิ้งร่องรอยของข้อมูลไว้ “จากบทสนทนาของพวกเขา” ถึงอย่างนั้นก็ยังไม่มีการเปิดเผยว่า มีผู้ใช้กี่รายที่ได้รับผลกระทบจากการสอดแนมนี้
อ้างอิงจากข้อมูลที่เปิดเผยโดย 404 Media มีการระบุว่า CMG เรียกเก็บเงิน 100 – 200 ดอลลาร์ (ประมาณ 3,300 – 6,700 บาท) ต่อวันสำหรับการโฆษณาแบบกำหนดเป้าหมายโดยการใช้ข้อมูลนี้ และในช่วงที่บทความดังกล่าวถูกเผยแพร่ ทาง CMG ยังไม่ได้ออกมาแถลงความจริงในเรื่องนี้
หลังจากเป็นข่าว ทางกูเกิลได้ถอด CMG ออกจาก ‘Partners Program’ เป็นที่เรียบร้อย เนื่องจากละเมิดนโยบายของบริษัท ขณะที่ Meta (Facebook) ยังไม่ได้ให้คำตอบที่แน่ชัด โดยระบุว่า บริษัทจดทะเบียนเป็นพันธมิตรด้านการตลาดทั่วไป ไม่ได้เฉพาะเจาะจงเพื่อติดตั้งซอฟ์ตแวร์นี้ และในส่วนของอเมซอน ได้ปฏิเสธว่า ไม่ได้เป็นหุ้นส่วนกับ CMG
กลับกันบรรดาบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ทั้งหมดต่างปฏิเสธว่า ไม่ใช้ไมโครโฟนของลูกค้าเพื่อสอดแนมบทสนทนา โดยอ้างว่าเป็นการละเมิดนโยบายโฆษณา
อย่างไรก็ดี ล่าสุด Cox Media Group ยอมรับว่า การสอดแนมบทสนทนาของผู้ใช้ผ่านโทรศัพท์มือถือด้วยซอฟต์แวร์ขั้นสูง ทั้งหมดนี้ก็เพื่อปรับปรุงบริการกำหนดเป้าหมายโฆษณาให้ดียิ่งขึ้น และยังไม่ได้ชี้แจงถึงประเด็นอื่น ๆ