ข่าวใหญ่วงการฟุตบอลโลก เมื่อ 12 สโมสรยักษ์ใหญ่ในทวีปยุโรป ได้ประกาศว่าพวกเขาพร้อมที่จะจัดตั้งการแข่งขันลีกใหม่ที่ใช้ชื่อ “European Super League” ไม่สนคำขู่ของยูฟ่า และ ฟีฟ่า แต่อย่างใด
โดยการประชุมร่วมเกิดขึ้นในช่วงกลางดึกของเมื่อคืนที่ผ่านมาศึก “European Super League” จะมี ฟลอเรนติโน่ เปเรซ เป็นประธานของการแข่งขันลีกใหม่นี้ และคาดว่าผลตอบแทนของรายการนี้ คือเม็ดเงินอันมหาศาลหลายเท่าตัวเมื่อเทียบกับรายการยุโรปของยูฟ่า และ ฟีฟ่า
จากแถลงการของ ซูเปอร์ ลีก ผ่านเว็บไซต์หลักอย่างเป็นทางการ (https://thesuperleague.com) ระบุชัดเจนว่า การแข่งขัน จะมี 20 สโมสรชั้นนำของยุโรป ประกอบด้วยสโมสรผู้ก่อตั้งทั้ง 15 ทีมและอีก 5 ทีมมาจากการคัดเลือกในแต่ละซีซั่น แบ่งการแข่งขัน เป็น 2 กลุ่มๆละ 10 ทีม แข่งขันแบบเหย้า-เยือน เพื่อหา 8 ทีมเข้าสู่รอบน็อคเอ้าท์ และ แข่งขันแบบเหย้า-เยือน ไปจนถึงรอบชิงชนะเลิศ
ทั้งนี้ยังระบุด้วยว่า การแข่งขันจะมีขึ้นในช่วงกลางสัปดาห์ โดยที่ทุกสโมสรยังคงลงแข่งขันในลีกภายในประเทศตัวเอง ส่วนเรื่องเงินรางวัลนั้นจะเพิ่มขึ้นตามรายได้ของการแข่งขัน และคาดว่าจะมากกว่า 10,000 ล้านยูโร ซึ่งเงินรางวัลของรายการนี้จะมีความโปร่งใสและตรวจสอบได้ชัดเจน
ขณะที่ช่วงเวลาแข่งขันจะเริ่ม เปิดฤดูกาลเช่นเดียวกับฟุตบอลลีกของแต่ละลีกในยุโรป และควบคู่ไปกับการแข่งขันฟุตบอลยุโรปของทางยูฟ่า แต่ทั้งนี้ยังไม่ยอมระบุว่าจะเริ่มแข่งขันในปีใด
12 สโมสรดังกล่าว ประกอบด้วยทีมในสามลีกใหญ่ของยุโรป ดังนี้
ทีมในพรีเมียร์ลีก อังกฤษ
– อาร์เซน่อล
– ลิเวอร์พูล
– แมนฯ ซิตี้
– แมนฯ ยูไนเต็ด
– เชลซี
– ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์
ทีมในลาลีกา สเปน
– เรอัล มาดริด
– บาร์เซโลน่า
– แอตเลติโก มาดริด
ทีมในกัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี
– เอซี มิลาน
– อินเตอร์ มิลาน
– ยูเวนตุส
ทั้งนี้ พรีเมียร์ลีก ได้ออกแถลงการณ์ประณามการตัดสินใจของเหล่าทีมดังของโลกว่า การไปตั้งลีกใหม่เป็นการขัดต่อระเบียบของลีกชัดเจน และมีความผิดร้ายแรง พร้อมกับเตือนว่า หากคิดจะเข้าร่วมลีกใหม่ ก็ขอให้แยกตัวจากพรีเมียร์ลีกไปได้เลย
ทางด้าน สหพันธ์ฟุตบอลยุโรป หรือ ยูฟ่า ก็ได้ออกแถลงการณ์ประณาม พร้อมขู่ว่าสโมสรใดที่เข้าร่วม จะต้องถูกแบนจากการแข่งขันในทุกรายการที่ทางยูฟ่าจัด รวมถึงนักฟุตบอลเองก็จะถูกแบนจากการแข่งขันในนามทีมชาติด้วย
นอกจากนี้ สมาคมฟุตบอลอังกฤษ, สหพันธ์ฟุตบอลสเปน , สหพันธ์ฟุตบอลอิตาลี ก็เตรียมตัวจะมีบทลงโทษออกมาทันทีหากสโมสรดังกล่าวภายใต้ลีกของตัวเอง ยืนยันจะเข้าร่วมการแข่งขัน “European Super League”