ในโอกาส YouTube ประเทศไทย ครบรอบ 10 ปี ในปีนี้ เราจะพาไปคุยแบบเจาะลึกกับ บี้ เดอะ สกา หรือ กฤษณ์ บุญญะรัง เจ้าของช่อง YouTube “Bie The Ska” ที่หลายๆ คนน่าจะเคยรับชมคอนเทนต์สนุกๆ มาก่อน ซึ่ง “Bie The Ska” ถือเป็นครีเอเตอร์รุ่นบุกเบิกก่อนที่ YouTube ประเทศไทยจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการเมื่อปี 2014
ในยุคที่การทำคอนเทนต์ประเภทวิดีโอยังไม่แพร่หลายมากนัก บี้ เดอะ สกา ได้ใช้จุดเด่นของตัวเองในด้านความคิดสร้างสรรค์และความตลก สร้างวิดีโอแนวพาโรดี้ขึ้นมา เขาได้ปลดปล่อยความคิดและสิ่งที่ชอบออกมาหลายวิดีโอ จนทำให้เขาเป็นที่รู้จักในฐานะ YouTube ครีเอเตอร์คนแรกๆ โดยมีประโยคที่คุ้นหูคือ “รู้ไหมเวลาเพื่อนๆ ยิ้ม ผมโคตรมีความสุขเลย”
“YouTube เหมือนบ้านหลังหนึ่งที่ทำให้ผมมีพื้นที่ที่จะสามารถให้ผมตกแต่งห้อง ตกแต่งบ้าน หรือสร้างสรรค์ผลงาน สร้างโชว์ต่างๆ โดยที่จะมีผู้ชมต่างๆ ที่จะแวะมาเยี่ยมชมบ้านของเราได้เสมอ มาทำกิจกรรมร่วมกัน ซึ่ง YouTube ก็เปรียบเสมือนบ้านหลังแรกของผมครับ”
และจากความสม่ำเสมอในการทำคอนเทนต์บน YouTube มาโดยตลอด ทำให้ปัจจุบันช่อง “Bie The Ska” มีผู้ติดตามบน YouTube มากเป็นอันดับ 3 ในประเทศไทย (14.5 ล้าน) และมียอดเข้าชมรวมกว่า 4.8 พันล้าน ซึ่งต้องถือว่า บี้ เดอะ สกา ได้เดินทางมาได้ไกลพอสมควร
“การเดินของผมตั้งแต่วันแรกที่ได้เริ่มทำคอนเทนต์บน YouTube ผมเปรียบเหมือนกับการสร้างเรือเพื่อเดินทางออกสำรวจทะเลกว้าง ซึ่งที่ผ่านมาผมก็ได้แวะมาหลายทวีป หลายประเทศมากๆ แล้วในแต่ละครั้งมันทำให้ผมได้ไอเดียและทดลองทำอะไรใหม่ๆ หลายแบบที่ไม่เคยทำมาก่อน อะไรที่ไม่เคยได้ทำก็ได้ทำ ยอดวิวที่รวมแล้วเกือบ 5 พันล้านก็เหมือนระยะทางที่ผมได้ออกมาสำรวจ และผมก็ได้เรียนรู้อะไรหลายอย่าง”
และอีกหนึ่งความเติบโตที่เราเห็นได้ชัดของ กฤษณ์ บุญญะรัง คือการเติบโตจากครีเอเตอร์สู่ผู้บริหารที่มีทีมงานมากกว่า 30 คน ซึ่งหลายๆ คนที่มีภาพจำกับคาแรคเตอร์สนุกสนานของเขา อาจจะมองภาพในฐานะผู้บริหารได้ไม่ชัด
“สิ่งที่สำคัญมากในการบริหารทีมหรือคนนั่นก็คือจิตใจของเราเอง ให้เรามีจิตใจที่เข้มแข็ง และมีความสุขในสิ่งที่ทำ คอยหมั่นถามตัวเองอยู่เสมอว่าเราชอบในสิ่งที่กำลังทำอยู่หรือไม่ สนุกกับมันหรือเปล่า สิ่งที่กำลังทำอยู่นั้น ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของเราหรือเปล่า ถ้าคำตอบคือไม่ เราก็ควรปรับให้มันเหมาะสมกับเรา เพราะว่าการทำคอนเทนต์ก็เหมือนเกม ที่ต้องใช้ระยะเวลายาวนานในการเล่น ถ้าเราไม่สนุกหรือเราไม่ชอบ เราก็จะไม่สามารถทำมันได้อย่างยาวนาน เพื่อที่จะประสบความสำเร็จได้ ซึ่งเมื่อเรามีความสุขกับสิ่งที่เราทำ มันก็จะถูกส่งต่อไปยังการจัดการทีมงานของเรา ทัศนคติและวิสัยทัศน์ในการทำงานของเราจะแสดงให้ทีมได้เห็นว่าเราในฐานะครีเอเตอร์และการเป็นผู้นำนั้นแตกต่างอย่างไร และเราจะเกิดความเคารพซึ่งกันและกัน ทำให้งานออกมาดี และสิ่งสำคัญอีกอย่างคือการสื่อสาร ไม่ว่าจะด้วยฐานะไหน ทุกคนในทีมควรมีอิสระในการออกความเห็นในเรื่องต่างๆ อย่างมีขอบเขต ซึ่งก็จะเป็นส่วนสำคัญอีกอย่างที่ทำให้ความเป็นทีมแข็งแรง”
ปฏิเสธไม่ได้ว่าปัจจุบันครีเอเตอร์ได้รับการตอบรับหลายรูปแบบ ทั้งคำชื่นชมและคอมเมนต์ในด้านลบอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ช่อง “Bie The Ska” เองก็ได้รับคอมเมนต์ด้านลบมามากมาย
“สำหรับคอมเมนต์เชิงลบเราไม่สามารถห้ามไม่ให้เกิดขึ้นได้ แต่สิ่งที่เราสามารถทำได้นั่นก็คือ การมองตามความเป็นจริง ถ้าเกิดสิ่งที่เราทำนั้นเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้องหรือทำให้เกิดผลกระทบในเชิงทางลบ และเกิดผลคอมเมนต์เชิงลบกลับมา เราก็ต้องรู้จักเรียนรู้จากบทเรียนที่เราทำผิดพลาด และต้องยอมรับกับคอมเมนต์เชิงลบที่เข้ามา ขอโทษอย่างจริงใจ และหาวิธีแก้ไข เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำในอนาคต แต่อีกกรณี หากสิ่งที่เราทำนั้นไม่ได้ผิด แต่เกิดการคอมเมนต์เชิงลบโดยไม่มีเหตุผล สิ่งที่เราควรทำคือเลือกที่จะไม่สนใจคอมเมนต์นั้น หรือหากคอมเมนต์นั้นมีเนื้อหาที่รุนแรงและสร้างความเสื่อมเสียให้กับผมและทีมงานมากจริงๆ เราก็จะรายงานคอมเมนต์นั้นๆ บน YouTube ทำให้เราไม่ต้องใช้เวลากับคอมเมนต์ที่ไม่มีคุณภาพ นอกจากนี้ สิ่งสำคัญคือเราต้องสื่อสารชุดความรู้ ชุดความคิดให้กับทีม เพื่อให้มี mindset ที่ตรงกัน ก็จะทำให้ทีมมีความสุขกับการทำคอนเทนต์ รวมถึงตัวเราด้วย”
คาแรคเตอร์ บี้ เดอะ สกา เป็นคนตลก สนุกสนาน แต่ YouTube ก็ช่วยให้เขาได้แสดงออกพรสวรรค์ด้านอื่นๆ ออกมาด้วย
“พอ YouTube มีฟีเจอร์ที่สนับสนุนครีเอเตอร์หลายอย่าง ก็ช่วยให้ผมได้มีไอเดียมากมาย ได้ฝึกและพัฒนาศักยภาพในหลายๆ ด้าน เช่น ด้านการบริหาร การทำธุรกิจอื่นๆ อย่างการบริหารช่อง ขยายช่อง สร้างทีมงาน ซึ่งตัวของผมเองนั้น ไม่ได้เป็นคนที่เก่งมาตั้งแต่แรก แต่พอได้ทำ YouTube นั้นทำให้ผมได้มีพื้นที่ได้ทดลอง ได้ฝึกฝน เรียนรู้และนำไปต่อยอดธุรกิจอื่นๆ ที่มี เช่น ธุรกิจทางด้านร้านอาหาร ซึ่งถือว่า YouTube เป็นส่วนช่วยที่สำคัญ
ซึ่งสิ่งเหล่านี้ทำให้ผมได้มีประสบการณ์ดีๆ ถ้าจะพูดถึงสิ่งที่ดีที่สุดที่ผมได้รับจากการเป็น YouTube ครีเอเตอร์ก็คือ การได้สร้างคนหรือครีเอเตอร์หน้าใหม่ภายใต้สังกัดของผมเอง การผลักดันให้ครีเอเตอร์ที่มีความฝันเหล่านั้นได้ต่อยอดในการทำคอนเทนต์จนประสบความสำเร็จในการทำงาน สามารถสร้างอาชีพให้ตัวพวกเขาเองได้”
กว่า 18 ปีที่ผ่านมาช่อง “Bie The Ska” ได้ลองทำคอนเทนต์หลากหลายประเภท แต่ยังมีคอนเทนต์ที่ “Bie The Ska” ยังไม่เคยทำและอยากลองทำ
“ช่อง Bie The Ska ได้ทำคอนเทนต์ที่หลากหลายแทบทุกประเภท แต่มีสิ่งที่อยากทำและยังไม่ได้ทำ คือการได้ไปพูดคุยหรือสัมภาษณ์นักธุรกิจที่ประสบความสําเร็จ เพื่อเรียนรู้แนวคิดเขา เอามาถ่ายทอดให้กับคนดู ซึ่งนอกจากคนดูจะได้ความรู้แล้ว ตัวผมเองก็อยากเรียนรู้กับคนที่ประสบความสำเร็จ ซึ่งถือว่าเป็นการได้ทำคอนเทนต์และได้เรียนรู้ เพิ่มความรู้ให้กับตัวเองได้ด้วย”
ในฐานะ YouTube ครีเอเตอร์ ที่สร้างสรรค์คอนเทนต์มานาน ถ้าสลับมุมมองเป็นผู้ชม บี้ เดอะ สกา ชอบดูหรือติดตามช่อง YouTube ประเภทไหนอยู่
“ช่องที่ผมติดตามอยู่คือ ช่อง Mr.Beast และอีกช่องที่ผมได้ดูบ่อยมากคือ mission to the moon ของคุณ รวิศ หาญอุตสาหะ ซึ่งเป็นช่องที่ดีมาก ให้ความรู้และการดำเนินชีวิต
แต่ก็ยังมีคอนเทนต์ที่ผมให้ความสนใจเพราะไม่คิดว่าจะได้เห็นมาก่อนคือ คอนเทนต์แบบสั้น หรือ Shorts เพราะผมเริ่มต้นมานาน เลยไม่เคยนึกภาพคอนเทนต์วิดีโอแบบสั้นๆ แบบในปัจจุบัน และไม่คิดว่าจะได้รับความนิยมมาก ซึ่งคนดูคอนเทนต์สั้นเยอะมากๆ และอีกประเภทหนึ่งที่ไม่คิดว่าจะได้เห็นคือ คอนเทนต์เที่ยวแบบยาวมากๆ และเป็นการเที่ยวในประเทศแบบคุณคัลแลนและคุณจอง ซึ่งได้รับความนิยมและประสบความสําเร็จมาก”
เป้าหมายในฐานะ กฤษณ์ บุญญะรัง, ครีเอเตอร์ Bie The Ska และผู้บริหาร
“เป้าหมายของผมไม่ว่าจะเป็นคอนเทนต์ครีเอเตอร์หรือการทำธุรกิจ คือ การสร้างรอยยิ้ม สร้างความสุขให้กับคนให้ได้เยอะที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ ในพาร์ทของการทำคอนเทนต์บน YouTube ผมก็ได้สร้างคลิปวิดีโอสนุกๆ คลิปตลกให้กับคนดู ในพาร์ทของธุรกิจ ร้านอาหาร ผมก็ได้ทำร้านบุฟเฟต์ ก๋วยเตี๋ยวไก่ และผมก็มีความสุขที่ได้นำเสนอของดีๆ ให้กับคนที่มารับประทาน เขาได้มารับประทานและรู้สึกอร่อย ยิ้ม ผมก็มีความสุขเช่นเดียวกัน เพราะเป้าหมายสูงสุดของผม คือการทำให้คนมีรอยยิ้มให้เยอะที่สุด”