ภาวะสายตาสั้นเป็นสาเหตุหลักของปัญหาความบกพร่องทางการมองเห็นในระดับสากล โดยมีการคาดการณ์ว่าประชากรมากกว่า 30% ประสบปัญหาภาวะสายตาสั้นอยู่ในขณะนี้ และคาดว่าภายในปี พ.ศ. 2590 จะมีประชากรถึง 50% ที่มีปัญหาจากภาวะสายตาสั้น

เหล่าผู้ให้บริการด้านการดูแลดวงตาได้ออกมาแนะนำพฤติกรรมและวิธีการสำหรับเด็กๆ เพื่อช่วยลดปัจจัยเสี่ยงภาวะสายตาสั้น โดยแนะนำให้ใช้เวลานอกบ้านในช่วงกลางวัน และให้เด็กๆ เพิ่มระยะห่างเวลาต้องใช้สายตาในการจ้องมองสิ่งใดสิ่งหนึ่ง อย่างการใช้งานอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์และการอ่านหนังสือ

ในโอกาสที่เรากำลังเข้าสู่สัปดาห์แห่งความตระหนักรู้ในภาวะสายตาสั้น (สัปดาห์ในระหว่างวันที่ 13-19 พฤษภาคม) เราอยากจะแบ่งปันความรู้ที่ทำได้ง่ายๆ 2 ข้อ ในการใช้งาน Apple Watch, iPhone, หรือ iPad เพื่อสุขภาพสายตาที่ดี ให้คุณส่งต่อให้กับเหล่าผู้อ่านและผู้รับชมได้นำไปใช้ประโยชน์กันต่อ

Time in Daylight หรือการดูเวลาที่ใช้ในแสงช่วงกลางวัน สถาบันภาวะสายตาสั้นนานาชาติ (The International Myopia Institute) แนะนำให้เด็กๆ ใช้เวลาอย่างต่ำ 80-120 นาที ต่อวันในการทำกิจกรรมนอกบ้านในช่วงกลางวันเพื่อช่วยลดความเสี่ยงภาวะสายตาสั้น โดย Apple Watch มีความสามารถในการประเมินระยะเวลาในการทำกิจกรรมในช่วงกลางวันผ่านระบบตรวจจับแสงสภาพแวดล้อม โดยคุณยังสามารถดูระยะเวลาที่ทำกิจกรรมในช่วงแสงกลางวันได้ในแอปพลิเคชัน Health อีกด้วย

Screen Distance ฟีเจอร์ The Screen Distance หรือระยะหน้าจอ ใช้ความสามารถจากกล้อง TrueDepth กล้องเดียวกับการทำงานของ Face ID บน iPhone และ iPad เพื่อช่วยเตือนให้คุณถืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ออกห่างจากตัวหลังถือใช้งานในระยะใกล้กับหน้าจอราวๆ 12 นิ้ว เป็นเวลานาน อีกทั้ง Screen Distance ยังช่วยเตือนให้เด็กๆ ปรับพฤติกรรมการใช้สายตากับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อย่างปลอดภัยกับสุขภาพดวงตาให้มากขึ้น ซึ่งสามารถช่วยลดความเสี่ยงภาวะสายตาสั้นของพวกเขาได้ ส่วนประโยชน์สำหรับผู้ใช้งานผู้ใหญ่ก็คือฟีเจอร์นี้ก็จะช่วยเตือน ซึ่งนำไปสู่การช่วยลดอาการตาล้าหรือปวดตาที่เกิดจากการใช้งานเชิงดิจิทัล