ปัญญาประดิษฐ์หรือ AI อาจมีศักยภาพที่จะเข้ามาเปลี่ยนโลกของศิลปะและความบันเทิง ตั้งแต่ด้านเสียงเพลงไปจนถึงภาพยนตร์ แต่คำถามที่สำคัญ คือ ปัญญาประดิษฐ์จะเป็นเครื่องมือสร้างสรรค์หรือเป็นภัยคุกคามต่อเหล่าผู้สร้างและศิลปินกันแน่
ในเดือนมีนาคม บอริส เอลดักเซน ศิลปินชาวเยอรมันได้รับรางวัลด้านภาพถ่ายอันทรงเกียรติอย่าง Sony World Photography Award แต่เอลดักเซนปฏิเสธที่จะรับรางวัลดังกล่าว โดยยอมรับว่า ผลงานที่ส่งเข้าประกวดไม่ใช่ภาพถ่าย แต่เป็นภาพที่ถูกรังสรรค์ผ่านปัญญาประดิษฐ์ โดยเขาหวังว่า การออกมายอมรับของเขาจะช่วยกระตุ้นการพูดคุยกันในประเด็นนี้ให้กว้างขวางมากขึ้น
แต่นั่นไม่ใช่ความสามารถอย่างเดียวของ AI เพราะ โจนาธาน เมย์ นักวิจัยด้านปัญญาประดิษฐ์ จาก University of Southern California กล่าวว่า เครื่องมือปัญญาประดิษฐ์อย่าง ChatGPT (Chatbot Generative Pre-trained Transformer) สามารถสร้างสรรค์และเขียนเรื่องราวต่าง ๆ ได้ด้วย
เมย์ เผยว่า สิ่งที่ระบบ AI ผลิตออกมานั้นเป็นเรื่องราวที่มีความเชื่อมโยงกัน แต่ไม่ใช่เรื่องที่มีความน่าสนใจมากนัก และถึงตัวเขาเองจะไม่ใช่บรรณาธิการงานเขียนกลุ่มนิยาย แต่จากที่สังเกตได้ นิยายที่ถูกสร้างจากเครื่องมือปัญญาประดิษฐ์ ไม่ใช่สิ่งที่ตนจะยอมจ่ายเงินเพื่อนำไปตีพิมพ์แน่ ๆ
ปิโอเทรอ มิโอว์สกี นักวิจัยด้านปัญญาประดิษฐ์ ที่มีงานอดิเรกเป็นการแสดงตลกอิงวิทยาศาสตร์ ลองนำหุ่นยนต์ AI มาร่วมแสดงแบบด้นสดที่กรุงลอนดอน โดยใช้ชื่อการแสดงว่า “Improbotics”
มิโอว์สกี ให้ความเห็นว่า ทักษะของ AI มีความน่าประทับใจ แต่มันก็ไม่เข้าใจบริบทที่อยู่รอบข้าง อย่างที่มนุษย์ซึ่งเป็นนักแสดงสามารถทำได้ พร้อมยกตัวอย่างว่า ปัญญาประดิษฐ์ไม่รู้ว่า มีคนกี่คนอยู่ในห้อง หรือมีคนร้องไห้อยู่หรือไม่ เป็นต้น
สำหรับนักวิจัยท่านนี้มองว่า เมื่อนำ AI มาใช้งานในฐานะนักแสดงหรือนักเขียน งานที่ถูกสร้างสรรค์ออกมามักจะมีคุณเนื้อหาที่มีคุณภาพกลาง ๆ ก่อนจะตั้งคำถามที่สำคัญว่า “ทำไมคุณถึงต้องการนักเขียนมาทำงานแทน ทำไมไม่เขียนออกมาด้วยตัวของคุณเอง”
ถึงกระนั้น ผู้คนยังต้องการค้นหาเส้นแบ่งของการทำงานร่วมกันระหว่างมนุษย์กับเครื่องจักรต่อไป
อย่างเช่นที่ University of Southampton ในประเทศอังกฤษ นักดนตรีของมหาวิทยาลัยแห่งนี้ได้ลองผสานการประพันธ์เพลงโดยให้ AI สร้างเพลงธีม และบรรเลงดนตรีแจ๊สแบบด้นสดประสานเข้าไป
มาร์ค วอเตอร์ส นักประพันธ์เพลงจากภาควิชาดนตรี Eastman School of Music จาก University of Rochester ที่เคยได้รับรางวัลเอ็มมีมาแล้ว และเคยทำหน้าที่เป็นผู้อำนวยการเพลง สำหรับการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกถึงสองครั้ง กล่าวว่า หนึ่งในตัวอย่างงานที่ AI สามารถทำได้ คือ การผลิตเพลงประกอบสำหรับรายการเกมโชว์
วอเตอร์ส มองว่า เกณฑ์วัดนั้นไม่ได้อยู่ที่ว่า ผลงานนั้นต้องมีเอกลักษณ์ยอดเยี่ยมไม่เหมือนใคร แต่สิ่งที่เราต้องการก็คือ การที่ AI สามารถผลิตชิ้นงานที่มีพลัง มีอารมณ์ขัน หรือสื่ออารมณ์ที่ถูกต้องออกมาเท่านั้น
เขากล่าวด้วยว่า ปัญญาประดิษฐ์สามารถสร้างสรรค์สิ่งเหล่านี้ได้ แต่ก็ยังขาดอารมณ์อย่างที่ศิลปินนั้นมี
โจนาธาน เมย์ นักวิจัยจาก University of Southern California เห็นด้วยกับสิ่งที่วอเตอร์สกล่าว
เมย์ กล่าวเสริมว่า “เหล่าปัญญาประดิษฐ์ไม่มีประสบการณ์ชีวิต ไม่เคยเผชิญความบอบช้ำด้านจิตใจ หรือต้องดำเนินชีวิตประจำวัน พวกมันจึงขาดการมองโลกแบบเติบโต ชนิดที่เราซึ่งเป็นมนุษย์สามารถเชื่อมโยงได้”
จากความเห็นเหล่านี้ เราอาจกล่าวได้ว่า แรงบันดาลใจและความคิดสร้างสรรค์ คือ สิ่งที่ขาดหายไปจากปัญญาประดิษฐ์ ซึ่งเป็นจิตวิญญาณที่ยังรอให้ถูกติดตั้งลงใน AI เหล่านี้