หน่อง ธนา เปิดใจหลังเลิก แพรวา จบทั้งที่ยังรัก ดีกว่ายื้อจนเกลียดกัน

Home » หน่อง ธนา เปิดใจหลังเลิก แพรวา จบทั้งที่ยังรัก ดีกว่ายื้อจนเกลียดกัน


หน่อง ธนา เปิดใจหลังเลิก แพรวา จบทั้งที่ยังรัก ดีกว่ายื้อจนเกลียดกัน

หน่อง ธนา เปิดใจหลังเลิก แพรวา ณิชาภัทร จบทั้งที่ยังรัก ดีกว่ายื้อจนเกลียดกันมองหน้าไม่ติด เผย วันใหม่ รู้ข่าวทั้งหมดแต่ไม่ถาม

เลิกกันแล้วทั้งที่ยังรัก หลังจากที่นักร้องนักแสดงสาว แพรวา ณิชาภัทร ฉัตรชัยพลรัตน์ ได้ออกมาเปิดใจถึงสาเหตุที่ตัดสินใจยุติความสัมพันธ์ที่คบกันมา 2 ปีกับนักแสดงหนุ่มรุ่นพี่ หน่อง ธนา ฉัตรบริรักษ์ เพราะไลฟ์สไตล์ไม่ตรงกัน ไร้ปัญหามือที่สาม ยอมรับว่าเฮิร์ตหนัก

ล่าสุดถึงคิว หน่อง ธนา ให้สัมภาษณ์ ขณะมาร่วมงานฉลองวันเกิดครบรอบ 60 ปี คุณชูชัย ชัยฤทธิเลิศ ไฮโซเพชรพันล้าน ที่ โรงแรมชูชัยบุรี ศรีอัมพวา จ.สมุทรสงคราม บอกพยายามประคับประคองกันถึงที่สุดแล้ว แต่เมื่อไปต่อไม่ได้อีกก็ต้องยอมรับเพราะกลัวจะมองหน้ากันไม่ติด หรือเกลียดกันไปเลย จบแบบนี้เป็นผลดีต่อทั้งสองฝ่ายแล้ว

สภาพจิตใจดีขึ้นหรือยัง? “สภาพจิตใจตอนนี้ ก็…ดีขึ้นแล้วครับ ที่แพรวาออกมาพูดก็ได้ดูครับ แต่ไม่ได้คุยเลย ตั้งแต่ที่จบกันไปก็ไม่ได้ติดต่อกันเลยครับ (เหตุผลที่มันไปต่อไม่ได้คืออะไร?) มันก็เป็นอย่างที่น้องว่าแหละ รวมๆ แล้วเป็นเรื่องของการทำความเข้าใจกันว่าหลายๆ เรื่องเนี่ยคุยกันแล้วอาจจะไม่เข้าใจกัน แต่อย่างที่น้องบอกว่าเราทั้งสองคนปรับกันมาแล้ว ไม่ใช่ว่ามีปัญหานิดหน่อยถึงแยกกัน ทุกอย่างคือผ่านกระบวนการนั้นมาทั้งหมดแล้ว เราประคับประคองกันมาดีแล้วครับ”

ตอนที่ตัดสินใจยุติความสัมพันธ์ เราคุยกันต่อหน้าไหม? “อ๋อ…ถ้าตอนนั้นคือโทรศัพท์ครับ (ไม่ได้เจอหน้ากันเลยใช่ไหมหลังจากนั้น?) ใช่ๆ ไม่ได้เจอหน้า ไม่ได้มีการติดต่อเลย ไม่ได้พิมพ์ด้วย”

มีสัญญาณเตือนไหม ว่ารักครั้งนี้มันน่าจะมีปัญหา? “สัญญาณเตือนจริงๆ มันก็ไม่มีนะ แต่มันก็จะเห็นอยู่แล้วว่าหลายครั้งที่ความคิดเราไม่ตรงกัน แต่ว่าอย่างที่บอกเรื่องสัญญาณเตือน เราอาจจะไม่เห็น เพราะเราค่อยๆ ปรับกันมาเรื่อยๆ แต่ว่าพอถึงจุดหนึ่งแล้ว เราก็ต้องมาคุยกันว่ามันอาจจะสุดได้เท่านี้นะ”

ตกใจไหมตอนที่น้องเป็นคนเอ่ยปากขอเลิก? “ก็มีครับ ก็มีบ้าง แต่ว่ามันก็เป็นเรื่องสุดท้ายอ่ะ เราตกลงกันแล้ว ว่าโอเคนะ ว่ามันจะต้องเป็นอย่างนี้นะ (เฮิรต์หนักไหม?) ก็มีครับ เป็นมนุษย์อ่ะเนอะ ต้องมีเรื่องอะไรพวกนี้อยู่แล้ว แต่ว่ามันก็อยู่ที่ว่าทั้งผมทั้งน้อง จะมีวิธีการฮีลตัวเองยังไงบ้าง ของผมก็อยู่กับเพื่อน หรือไม่ก็อยู่กับวันใหม่

มูฟออนได้หรือยัง? “ในเรื่องของการใช้ชีวิต จริงๆ ก็ถือว่าดีขึ้นในขั้นหนึ่งแล้วครับ แต่ยังไม่ร้อยเปอร์เซ็นต์ (คนในครอบครัวให้กำลังใจยังไงบ้าง?) ก็จะมีแม่กับเฮียบอย ก็ทุกคนแหละชวนให้ออกไปข้างนอก หรือว่าวันที่ผมไม่อยากออกไปข้างนอก เขาก็จะบอกว่าออกไปหาเพื่อนไหม ซึ่งผมก็จะรู้ตัว ว่าเมื่อไหร่ที่พร้อมจะออกไป

เหมือนรอให้น้องเขาเป็นฝ่ายออกมาพูดก่อน? “จริงๆ ก็จะมีพี่นักข่าวโทรมาถามบ้าง แต่ผมก็ได้แจ้งว่าผมขออนุญาตพูดทีเดียวนะครับ (ยังสามารถพูดคุยกันได้ไหม?) อย่างที่บอกว่าไม่ได้มีการติดต่อกัน แต่ผมก็จะส่งสารผ่านคนใกล้ตัวเขาว่าฝากดูแลน้องด้วย หรือไม่ก็เป็นคนที่ทั้งเราแล้วก็น้องรู้จัก เขาเองพอเห็นข่าวก็จะถามว่าเป็นยังไงบ้าง ผมก็บอกว่าเป็นอย่างที่ข่าวบอกแหละ ถ้าเกิดว่าน้องไปหาก็ฝากดูแลเขาด้วย”

น้องบอกว่าหวังว่าจะได้กลับมาเป็นเพื่อนกัน เราโอเคไหม? “เราโอเคครับ เพราะอย่างที่บอกแหละ ตอนสุดท้ายเรียกว่าคุยตกลงกันหมดแล้ว เหมือนถ้าเราไม่จบกันแค่นั้น เราอาจจะ…ใช้คำว่าเกลียด หรืออาจจะแบบแค่ว่ามองหน้ากันไม่ติดหรือเปล่า คือถ้าเกิดหยุดกันตรงนั้น ผมอยากให้วันหนึ่งเราเจอกันแล้วเรายิ้มให้กันได้ ตกลงกันแล้วว่าดีกว่าที่จะเป็นอย่างนั้น”

เหมือนที่น้องพูด ‘เลิกกันทั้งที่ยังรักกันอยู่’ ? “ก็รู้สึกแหละครับ ถามว่าอาจจะกลับมารักกันได้อีกไหม อันนี้ผมตอบไม่ได้ จริงๆ ผมก็เห็นหลายคอมเมนต์ คือผมก็ได้ตามข่าว หลายคอมเมนต์บอกว่าเป็นเพราะรักกันไม่มากพอหรือเปล่าถึงต้องเลิกกัน จริงๆ ความคิดเหล่านั้นก็ไม่ได้ผิด ต่างคนต่างคิดได้ แต่ว่าสำหรับผมคนที่อยู่ในจุดที่มองเห็นของคนสองคน ผมมองว่าเพราะเรารักกันมากพอที่จะไม่ทำร้ายกันไปมากกว่านี้”

คนรอบข้างว่ายังไงบ้าง ตกใจไหม? “เพื่อนๆ ก็มีถามครับ เราก็แค่บอกให้เขารับรู้ เขาก็จะโอเค ถ้าเกิดว่าเป็นเราเป็นเพื่อนสนิท เขาก็อาจจะแบบเดี๋ยวค่อยคุยแล้วกัน รอให้เราดีขึ้นก่อน ค่อยมาว่ากัน (ไม่ได้มีมือมี่สามใช่ไหม?) ไม่มีมือที่สามเลย เป็นเรื่องของคนสองคนเท่านั้นเลยจริงๆ ครับ

ก่อนหน้านี้ก็มีข่าวว่าน้องกลับไปหาแฟนเก่า? “อันนั้นก็เห็นข่าว แต่ว่าจริงๆ ก็ตามที่น้องว่านั่นแหละ (พักใจอีกนานไหมครั้งนี้?) มันดีขึ้นจากช่วงแรก แต่ว่าดีขึ้นแค่ไหนยังตอบไม่ได้ แค่ยังไม่ครบ 100 เปอร์เซ็นต์ ตอนนี้ก็อยู่กับเพื่อนๆ ไปก่อน (เปิดอ่านไลน์เก่าๆ บ้างไหม?) จริงๆ ก็ไม่มีแล้ว คืออย่างที่บอก ถ้าเราเปิด เราก็สามารถพิมพ์ไปหาเขาได้ แต่ไม่ได้บล็อกการติดต่อ พร้อมที่จะเจอได้ครับ”

วันใหม่ถามหาไหม ว่าพี่แพรวาไปไหน? “จริงๆ วันนั้นผมก็ถามน้องเขา ว่ารู้ไหม น้องบอกว่าหนูรู้หมดแล้ว หนูเห็นข่าวหมดแล้ว คือเขาก็คงเห็นข่าวของเขาแหละ ผมเองก็ตกใจ คือเขาเล่นติ๊กต็อก เล่นเฟซบุ๊ก เขาก็จะเห็นข่าว แต่เขาไม่ถาม เขาโตมากนะ เขาน่าจะรู้ว่ายังไม่ควรถาม ณ ตอนนี้ ต้องขอบคุณทุกคนที่เป็นห่วงพวกเราทั้งคู่ ผมเชื่อว่าเวลาจะฮีลเราทั้งสองคนให้มันผ่านพ้นเรื่องราวเหล่านี้ไปได้ครับ”

พร้อมเปิดใจหรือยัง? “ตอนนี้ก็ไม่ได้เปิด ไม่ได้ปิด (มุมมองความรักหรือสเป๊กจะเปลี่ยนไปไหม?) ก็ไม่ขนาดนั้น การที่เราได้คบกับน้องก็เหมือนเราได้เรียนรู้อะไรมากขึ้น กับเด็กอายุเท่านี้ที่เด็กกว่าเรา ว่าความคิดเขาเป็นยังไง ดีที่ได้มาเรียนรู้กันแหละ (รักครั้งต่อไปต้องเป็นผู้ใหญ่กว่านี้ไหม?) จริงๆ ก็ไม่เกี่ยวกับเรื่องพวกนั้นเยอะครับ ใช่ก็คือใช่ครับ”

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ