“หลวงพี่น้ำฝน” สุดทน “หมอปลา” ชี้เหมือนใช้ศาลเตี้ยตัดสินหลวงปู่

Home » “หลวงพี่น้ำฝน” สุดทน “หมอปลา” ชี้เหมือนใช้ศาลเตี้ยตัดสินหลวงปู่


“หลวงพี่น้ำฝน” สุดทน “หมอปลา” ชี้เหมือนใช้ศาลเตี้ยตัดสินหลวงปู่

หลวงพี่น้ำฝน เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม ชี้ “หมอปลา” ทำไม่ถูกต้อง ถึงแม้ว่าจะได้รับการร้องเรียนไม่ว่าเรื่องใดก็ตาม ก็จะต้องทำตามขั้นตอน เปรียบเสมือนศาลเตี้ย ไปตัดสินเขาโดยที่ไม่รู้ว่าเรื่องราวเป็นมาอย่างไร

เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 13 พ.ค.2565 ที่วัดไผ่ล้อม จ.นครปฐม พระครูปลัดสิทธิวัฒน์ หรือ หลวงพี่น้ำฝน เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม เปิดเผยกรณีหมอปลานำกองทัพนักข่าวบุกเข้าสัมภาษณ์ หลวงปู่แสง ซึ่งป่วยเป็นอัลไซเมอร์สร้างความไม่พอใจให้ลูกศิษย์และผู้เคารพศรัทธาหลวงปู่แสงเป็นอย่างยิ่ง ว่าอาตมาได้เห็นข่าวหมอปลาบุกเข้าไปในสถานที่ต่างๆ จะสังเกตได้ว่า

“เวลาเข้าไปมักมีจุดประสงค์ โดยมีนักข่าวเข้าไปถือกล้อง บันทึกภาพรวมถึงมีการไลฟ์สดผ่านสื่อโซเชียล เมื่อเห็นแล้วรู้สึก ไม่สมควร อาตมาได้เห็นภาพแล้วว่าหลวงปู่แสงไม่ได้รู้เรื่องอะไรเลย ตามภาพมีแต่ผู้คนรุมล้อม รุมๆๆๆเพียงอย่างเดียว นี่คือมุมมองที่อาตมาเห็นจึงรู้สึกถึงความเจ็บปวดที่พระสงฆ์ที่มีอายุกว่าร้อยปี ทุกคนมีพฤติกรรมเข้าไปรุมล้อมเข้าไปในลักษณะแบบนี้แทบทุกวัดเลยก็ว่าได้”

พระครูปลัดสิทธิวัฒน์

หลวงพี่น้ำฝน กล่าวต่อว่า อาตมาบอกเลยว่า เป็นเรื่องที่ผิดในการเข้าไปในลักษณะนี้ ถึงแม้ว่าหมอปลาจะได้รับการร้องเรียนไม่ว่าเรื่องใดก็ตาม จะต้องดำเนินการตามขั้นตอน เริ่มตั้งแต่สำนักพุทธศาสนา แม้แต่ผู้อำนวยการสำนักพุทธก็ยังไม่มีสิทธิ์ที่จะสอบ ยังต้องส่งเรื่องต่อไปยังเจ้าคณะจังหวัด เจ้าคณะอำเภอ ลงมาถึงเจ้าคณะตำบลเป็นผู้เข้าไปสอบ หมอปลาจะเข้าไปตรวจสอบที่วัดไหน ท่านไปได้ไม่มีใครว่า แต่จะต้องทำให้เป็นไปตามขั้นตอน

” อาตมาพูดได้เพราะอาตมาเจอมาก่อนแล้วทุกวิถีทางกับการที่มีคนไปร้องเรียน มันเป็นอย่างที่อาตมาบอก ทุกอย่างจะต้องเป็นไปตามการขั้นตอน จึงจะมาสอบได้ไม่ใช่อยู่ๆจะนำหลักฐานภาพมาจับมาถ่ายภาพ หรือมาไลฟ์สดทำไปเพื่ออะไร ทั้งยังไม่รู้ว่าถูกหรือผิดและมาตัดสินเอง เปรียบเสมือนศาลเตี้ย ไปตัดสินเขาโดยที่ไม่รู้ว่าเรื่องราวเป็นมาอย่างไร

สำหรับหมอปลา อาตมาอยากฝากบอกว่า ท่านทำดีอยู่แล้วแต่ต้องทำตามขั้นตอน เพื่อไม่ให้เกิดปัญหา ปัญหาเกิดทุกที่ที่ไป วัด พระสงฆ์ เจ้าอาวาสทั่วประเทศ มีใครชอบ อาตมาทำงานในด้านการปกครองดูแล โดยเฉพาะพระสงฆ์ มีคณะสงฆ์ในการขับเคลื่อน มีพระวินยาธิการ และอย่าเข้าใจไปเองว่า คณะสงฆ์จะเข้าข้างกันเอง หากความจริงก็เป็นความจริงอยู่วันยังค่ำ “

ลงโทษ

พระครูปลัดสิทธิวัฒน์ บอกด้วยว่า สำหรับหลวงปู่แสง อาตมาเองไม่ได้รู้จัก ไม่เคยพบ และไม่เคยได้สัมผัสท่าน แต่อาตมาได้พบเห็นจากการนำเสนอข่าวที่ทางท่านได้ถ่ายทอดสดมา ทางเราก็ได้ดูอยู่ ก็เห็นว่าหลวงปู่ไม่รู้เรื่อง ยังโยนพระแจกให้อีก แต่ก็ยังถูกว่าเอา ปาวๆๆ ตามภาพที่ปรากฏ

” เมื่อได้เห็นภาพก็อดสงสัยไม่ได้และก็เป็นจริงตามนั้นคือหลวงปู่ป่วยเป็นอัลไซเมอร์จำอะไรไม่ได้ นี่คือสิ่งที่เห็นและต้องบอกว่า มันทำให้เราเจ็บปวดใจ ที่มีเรื่องเสียหายต่อคณะสงฆ์ หากเจอว่าใครทำผิดก็ให้ทำไปตามกระบวนการ เริ่มตั้งแต่ ผอ.สำนักพุทธ เรียนไปถึง เจ้าคณะจังหวัด เจ้าคณะอำเภอ เรื่อยลงมาให้ดำเนินการในการตรวจสอบ ส่วนตัวแล้วไม่เคยได้รู้จัก หรือสนิทกับหลวงปู่แสงแต่อย่างใด แต่อาตมาอยู่ในฐานะพระภิกษุสงฆ์ด้วยกัน ผู้ที่มีพรรษากาลที่มากแล้ว”

 

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ