ความเคลื่อนไหวของนักปั่นทีมชาติไทย ประเภทเสือภูเขา ชุดสู้ศึกซีเกมส์ ครั้งที่ 31 ที่ประเทศเวียดนาม หลังจากเดินทางถึงเมืองฮัวบินห์ เมื่อช่วงสายของวันที่ 12 พฤษภาคม ที่ผ่านมา ซึ่งอยู่ห่างจากกรุงฮานอยประมาณ 90 กม. ล่าสุด เมื่อช่วงเช้าของวันที่ 13 พฤษภาคม “โค้ชปู” นาวาอากาศตรี สุภัทร ศรีไสว ผู้จัดการทีม และหัวหน้าผู้ฝึกสอนนักปั่นเสือภูเขาทีมชาติไทย พร้อมด้วย “โค้ชนุ๊ก” ร้อยโทหญิง กฤติกา ศิลาพัฒน์ ผู้ช่วยผู้ฝึกสอน และบรรดานักปั่นเสือภูเขาทั้งครอสคันทรี่ และดาวน์ฮิล ได้ไปเดินสำรวจเส้นทางในสนามแข่งขันจริง ตามโปรแกรมที่เจ้าภาพกำหนดเอาไว้ ส่วนช่วงบ่ายนักปั่นมีโอกาสลงฝึกซ้อมประมาณ 1 ชั่วโมง
หลังการสำรวจเส้นทางแข่งขัน น.ต.สุภัทร เปิดเผยว่า จากที่ได้เห็นสภาพเส้นทางการแข่งขันก็เป็นไปตามที่คาดเอาไว้ คือมีความลาดชัน เนื่องจากนักกีฬาเจ้าภาพไม่ค่อยมีเทคนิคในด้านเสือภูเขา แต่เขาจะเน้นความแข็งแรงเป็นหลัก ซึ่งนักปั่นไทยก็ได้เตรียมความพร้อมด้านพลกำลังมาพอสมควร โดยการฝึกซ้อมปั่นขึ้นภูเขาในระยะทางยาว ๆ ที่เขาใหญ่ สำหรับนักกีฬาดาวน์ฮิล ด้วยสภาพสนามที่มีเนินยาว ๆ ทั้งไหลลงและดันขึ้น มีทางตรงยาว ๆ หลายจุด ก็จะให้นักกีฬาเปลี่ยนให้มาใช้รถประเภทเอ็นดูโร่ ที่สามารถทำความเร็วได้ และสูญเสียแรงกดลูกบันไดน้อยกว่ารถดาวน์ฮิล
น.ต.สุภัทร กล่าวอีกว่า สำหรับโปรแกรมการแข่งขัน วันที่ 14 พฤษภาคม ช่วงเช้าเวลา 10.00-11.00 น. เจ้าภาพจะเปิดสนามให้นักปั่นดาวน์ฮิลฝึกซ้อม ส่วนช่วงบ่ายเวลา 14.00-15.00 น. เป็นการทดสอบเวลา โดยนักปั่นไทยทั้ง 4 คน ประกอบด้วย นักกีฬาชาย 2 คน ได้แก่ “เบส” นายเมธาสิทธิ์ บุญเสน่ห์ กับ “ตั้ง” นายชินพัฒน์ สุขจรรยา นักกีฬาหญิง 2 คน ได้แก่ “เพ็ชร์” จ่าอากาศโทหญิง วิภาวี ดีคาบาเลส กับ “ไอซ์” น.ส.ศิรภัสสร ชาติกำเนิด ซึ่งในวันแข่งขันก็ต้องดูว่านักกีฬาชาติใดมีความพร้อมมากกว่ากัน ส่วนนักปั่นไทยก็เตรียมความพร้อมมามากพอสมควร น่าจะสู้นักปั่นชาติอื่น ๆ และคว้าเหรียญทองมาครองได้
ด้าน “เบส” เมธาสิทธิ์ นักปั่นความหวังเหรียญทองของทีมสองล้อไทย กล่าวว่า สิ่งสำคัญคือการเตรียมยางให้เหมาะกับสภาพสนามที่มีความชันและบางช่วงก็ลื่น ต้องเตรียมรถให้ดี โดยสตาฟฟ์โค้ชได้เตรียมยางมาหลายสิบเส้นทั้งยางที่ใช้ความเร็ว ยางที่ลุยโคลน ส่วนวันแข่งขันจะใช้ยางแบบไหนต้องขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ ส่วนความหวังในการแข่งขันครั้งนี้ ขอทำหน้าที่ให้ดีที่สุด และพยายามคว้าเหรียญทองกลับไปฝากพ่อแม่พี่น้องชาวไทยให้ได้
ส่วน “ตั้ง” ชินพัฒน์ กล่าวว่า หลังจากดูสภาพเส้นทางแข่งขันแล้ว มีความท้าทายพอสมควร มีทั้งทางยาวและปั่นลงเขา จุดไฮไลท์ของสนามอยู่ที่ระยะ 200 เมตรก่อนเข้าเส้นชัยซึ่งมีความชัน และเป็นจุดที่น่าตื่นเต้นมาก หลังจากนี้จะต้องกลับไปทำการบ้านว่าจะเลือกใช้รถคันไหน และใช้ยางประเภทอะไร ซึ่งสตาฟฟ์โค้ชได้เลือกให้ใช้รถแอนดูโร่ที่ทำความเร็วได้
“เพ็ชร์” วิภาวี นักปั่นดาวน์ฮิลหญิงที่เป็นความหวังของทีมไทยอีกคน กล่าวว่า การแข่งขันครั้งนี้เราต้องเตรียมรถให้ดีและเหมาะกับสภาพสนาม รวมทั้งต้องวางแผนด้วยว่าจะปั่นอย่างไรถึงจะเก็บแรงเพื่อจะปั่นให้ดีที่สุดตลอดเส้นทาง ขอฝากให้พ่อแม่พี่น้องชาวไทยช่วยส่งใจมาเชียร์พวกเรานักกีฬาจักรยานเสือภูเขา ทั้งดาวน์ฮิล และครอสคันทรี่ ที่เตรียมชิงชัยในอีก 2 วันข้างหน้า รวมทั้งกีฬาชนิดอื่น ๆ ด้วย พวกเราจะทำผลงานให้ดีที่สุด และจะพยายามคว้าเหรียญทองให้ได้ เพื่อชื่อเสียงของประเทศไทยและคนไทยทั้งประเทศ
ขณะที่ “โดด” สิบเอก กรีติ สุขปราสาท นักปั่นเสือภูเขาครอสคันทรี่ สภาพสนามเป็นไปตามที่คาดเอาไว้คือเป็นทางขึ้นเขา มีระยะทางไต่ขึ้นเขาระยะทางต่อรอบประมาณ 300 เมตร ส่วนพื้นสนามไม่มีอุปสรรคมากนักเป็นทางเรียบ ๆ ปั่นง่าย หากควบคุมพละกำลังดี ๆ ก็สามารถปั่นแซงคู่แข่งชาติอื่น ๆ ได้ทุกรอบจนถึงรอบสุดท้าย ฝากพ่อแม่พี่น้องชาวไทยส่งแรงใจมาเชียร์ด้วย พวกเราจะทำผลงานให้ดีที่สุด และเอาเหรียญทองกลับประเทศไทยให้ได้
สำหรับโปรแกรมการแข่งขันจักรยานเสือภูเขา มีดังนี้ วันที่ 14 พฤษภาคม เวลา 14.00-15.00 น. ทดสอบเวลาประเภทดาวน์ฮิล, วันที่ 15 พฤษภาคม เวลา 14.00-16.00 น. แข่งขันประเภทดาวน์ฮิล รอบชิงชนะเลิศ ทั้งประเภทชายและหญิง.