ผัวเมียแสบ วิ่งราวข้าวแกง ตระเวนชักดาบค่าอาหาร สั่งเยอะๆพอคิดเงินแล้วรีบหนี โดนกันหลายร้าน

Home » ผัวเมียแสบ วิ่งราวข้าวแกง ตระเวนชักดาบค่าอาหาร สั่งเยอะๆพอคิดเงินแล้วรีบหนี โดนกันหลายร้าน


ผัวเมียแสบ วิ่งราวข้าวแกง ตระเวนชักดาบค่าอาหาร สั่งเยอะๆพอคิดเงินแล้วรีบหนี โดนกันหลายร้าน

ผัวเมียแสบ วิ่งราวข้าวแกง ตระเวนชักดาบค่าอาหาร สั่งเยอะๆพอคิดเงินแล้วรีบหนี โดนกันหลายร้าน พลเมืองดีไล่ตาม ถ่ายคลิปไว้เป็นหลักฐาน คนร้ายโยนถุงแกงทิ้งกลางทาง

วันที่ 13 พ.ค.2565 ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจาก นางธัญญารัตน์ วิชัด อายุ 53 ปี เจ้าของร้านเจ๊สาวข้าวแกง ริมถนนอู่ทอง ใกล้กับวิทยาลัยอาชีวศึกษาพระนครศรีอยุธยา ว่าเมื่อวานนี้ มีสามีภรรยาคู่หนึ่งขับขี่รถจยย.มาซื้อข้าวแกงที่ร้านใส่ถุงจำนวนหลานอย่าง คิดเป็นเงินประมาณ 400 บาท ระหว่างที่ตนเองกำลังตักแกงให้ ผู้หญิงที่มาด้วยกันได้เดินมาพร้อมกับบอกว่าจะไปซื้อโจ๊กอีกร้านหนึ่ง พอตักแกงใส่ถุงเสร็จและคิดเงินคาอาหาร และส่งให้ผู้ชาย ผู้ชายบอกว่าเงินอยู่ที่ภรรยา เดี๋ยวเอาเงินมาให้

ขณะนั้นตนระวังตัวอยู่แล้ว เพราะมีแม่ค้าด้วยกันเตือนให้ระวังพฤติกรรมแบบนี้ จึงได้หันไปมองที่ร้านโจ๊กมองไม่เห็น จังหวะนั้นเองผู้ชายได้คว้าเอาถุงแกง แล้วขี่รถจยย.หลบหนีไป ช่วงนั้นมีลูกค้ามารอซื้อข้าวแกงอยู่พอดี จึงขอให้ช่วยขับติดตามไป พร้อมกับถ่ายคลิปไปด้วย จนไล่กวดทัน สองสามีภรรยาได้โยนถุงแกงทิ้งกลางสะพานเอกาทศรถ ข้ามแม่น้ำป่าสัก แล้วหลบหนีไป

เหตุการณ์ดังกล่าว ตนเองไม่คิดว่าจะมีพวกมิจฉาชีพมาก่อเหตุแบบนี้ เศรษฐกิจก็ไม่ค่อยดี มาโดนหลอกโดนโกงแบบนี้ เสียทั้งของ กำไรก็ไม่ได้ เพราะเงินค่าข้าวแกง 400 บาทนั้น ก็ถือว่ามากสำหรับพ่อค้าแม่ค้า ที่ผ่านมาเคยพูดคุยกับพ่อค้าแม่ค้าหลายคน ด็โดน สามีภรรยาคู่นี้ก่อเหตุในลักษณะเดียวกัน จึงอยากขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยติดตามจับกุมตัว เพื่อไม่ให้ไปก่อเหตุกับคนอื่น

ด้านนายฐิติวัสส์ กรึงไกร อายุ 19 ปี พลเมืองดี เล่าเหตุการณ์ให้ฟังว่า ตนเองมาซื้อข้าวแกงอยู่ที่ร้านพอดี เห้นเหตุการณ์และเจ้าของร้านร้อขอความช่วยเหลือ จึงขี่จยย.ไล่ตามไป จนถึงกลางสะพาน เอกาทศรถ ตนพยายามเรียกให้คนร้ายจอดรถจยย. แต่ก็ไม่ยอมยอมจอด

ตนจึงรีบขี่แซงไปขวางจนยอมจอด ขณะนั้นทั้งคู่ได้โยนถุงแกงทิ้งกลางถนนแล้วขับรถหลบหนีไป แต่ตนได้ถ่ายคลิปเอาไว้ เห็นสองสามีภรรยาอย่างชัดเจน พร้อมกับแผ่นป้ายทะเบียนแล้วนำแกงมาให้แม่ค้า และทางเจ้าของร้านข้าวแกง ได้มอบข้าวแกงจำนวน 1 ชุดให้เพื่อตอบแทนน้ำใจที่วยเหลือ

ขณะที่นางพิสมัย สายสุด อายุ 76 ปี เจ้าของร้านขายก๋วยเตี๋ยวเนื้อ เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้ มีสองสามีภรรยา มาทำทีสั่งก๋วยเตี๋ยว เมนูต่างๆในร้าน สั่งแบบ พิเศษทุกเมนู จำนวน 10 ถุง คิดเป็นเงินประมาณ 500 กว่าบาท ระหว่างนั้นเข้ามาเปิดน้ำอัดลมดื่มแบบคนกระหายมาก ระหว่างที่ทำก๋วยเตี๋ยวอยู่ ผู้หญิงเดินข้ามถนนไปภายในวัด พอทำเสร็จคิดเงินส่งก๋วยเตี๋ยวให้ ผู้ชายบอกว่าเงินอยู่กับ ผู้หญิง จะไปเอเงินมาให้ รับก๋วยเตี๋ยวแล้วหายไปเลยไม่กลับมาจึงรู้ว่าถูกหลอกแล้ว

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ