กระทรวงสาธารณสุขอินเดีย แถลงเมื่อวันพฤหัสบดี (22 เม.ย.) ว่าพบผู้ป่วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) เพิ่มเติมในรอบ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา ถึง 312,731 คน นับเป็นตัวเลขการติดเชื้อใหม่รายวันที่สูงที่สุดตั้งแต่พบว่าไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 (SARS-CoV-2) ระบาดในประเทศจีนเมื่อ 1 ปีกว่าที่ผ่านมา
จำนวนผู้ป่วยโรคโควิด-19 รายใหม่ของอินเดียนี้ ยังมากกว่าตัวเลขสูงสุดที่สหรัฐทำไว้เมื่อวันที่ 8 ม.ค. ที่ 300,669 ราย
ตลอด 2 เดือนที่ผ่านมา การระบาดในอินเดียกลับมารุนแรงอีกครั้ง โดยมีการรายงานว่าเกิดการระบาดเป็นกลุ่มก้อน (คลัสเตอร์) ใหญ่ๆ มากมาย การขาดแคลนออกซิเจนสำหรับผู้ป่วย และรถพยาบาลที่เรียวคิวกันนอกโรงพยายาลเพราะมไ่มีเครื่องช่วยหายใจให้กับผู้ป่วยรายใหม่
การเพิ่มขึ้นอย่างมากของผู้ติดเชื้อในอินเดียนี่เอง ที่ทำให้ตัวเลขผู้ติดเชื้อรายวันรวมของทั่วโลกสูงขึ้นไปด้วย เพราะ 40% ในจำนวนนี้มาจากอินเดีย ซึ่งอาจส่งสัญญาณว่าการต่อสู้กับโรคระบาดนี้ไม่น่าจะจบในเร็วๆ นี้ เพราะแม้ว่าประเทศที่ฐานะร่ำรวยจะเห็นตัวเลขการติดเชื้อรายใหม่ที่ลดลง และมีการระดมฉีดวัคซีนให้กับประชาชน อย่างเช่น สหรัฐ แต่ประเทศที่ยากจนกว่ากลับยังทำเช่นนั้นไม่ได้
รัฐบาลอินเดียเปิดเผยอีกว่า มีผู้เสียชีวิตในวันเดียวกันนี้ถึง 2,104 คน ซึ่งสูงทำลายสถิติอีกด้วย และแม้ว่าน้อยการเสียชีวิตในสหรัฐและบราซิลในวันที่แย่ที่สุดก็ตาม แต่ตัวเลขนี้ก็กำลังชี้ถึงระบบสาธาณสุขของอินเดียที่รองรับไม่ไหวแล้วจริงๆ
เมื่อวันอังคาร (20 เม.ย.) มีผู้เสียชีวิต 22 ราย จากอุบัติเหตุในเมืองนาชิก ตอนกลางของประเทศ เพราะแท็งก์ออกซิเจนหลักในโรงพยาบาลแห่งหนึ่งรั่วไหล จนทำให้ไม่มีออกซิเจนส่งถึงผู้ป่วยโรคโควิด-19
ย้อนกลับไปเมื่อเดือน ก.พ. สถานการณ์ในอินเดียต่างจากที่เป็นอยู่มาก เพราะพบผู้ป่วยรายวันเฉลี่ยเพียง 11,000 ราย และขณะนั้นบริษัทยาหลายแห่งในประเทศก็ผลิตวัคซีนออกมาได้หลายล้านโดส ที่จนถึงตอนนี้มีชาวอินเดียที่ได้รับวัคซีนอย่างน้อย 1 โดสไปแล้วมากกว่า 132 ล้านคน แต่ตอนนี้วัคซีนที่สำรองไว้กำลังเหลือน้อยลงทุกทีๆ และผู้เชี่ยวชาญก็กังวลว่าอาจฉีดได้ไม่ถึง 300 ล้านคนในช่วงกลางปีตามที่ตั้งเป้าไว้
รัฐบาลของนายกรัฐมนตรีอินเดีย นายนเรนทรา โมดี ก็ได้รับเสียงวิจารณ์ว่าไม่ได้เตรียมตัวรับมือการแพร่ระบาดระลอก 2 และยังไม่ได้เตือนให้ชาวอินเดียระวังไวรัสโดยเฉพาะสายพันธุ์ที่ติดเชื้อได้ง่ายขึ้น
ไม่ใช่แค่นั้น ที่ผ่านมารัฐบาลอินเดียยังอนุยาตให้มีการจัดเทศกาลต่างๆ ตามความเชื่อศาสนาฮินดู จนมีผู้แสวงบุญหลายล้านคนไปรวมตัวกันริมแม่น้ำคงคา ส่วนพรรครัฐบาลอินเดียก็จัดการปราศรัยที่มีคนร่วมจำนวนมากในหลายรัฐด้วย จนทำให้เกิดการระบาดไปทั่ว
ส่วนรัฐที่ได้รับผลกระทบรุนแรงที่สุด คือ รัฐมหาราษฎระ ซึ่งเป็นรัฐทางตะวันตกของประเทศ ที่มีผู้คนอาศัยอยู่จำนวนมาก และเป็นที่ตั้งของนครมุมไบ ศูนย์กลางการเงินของอินเดีย จนเมื่อวันพุธ (21 เม.ย.) คณะผู้บริหารรัฐมีคำสั่งให้สำนักงานต่างๆ ของรัฐให้คนมาทำงานได้เพียง 15% ทั้งยังออกมาตรการห้ามจัดงานแต่งงาน และการเดินทางเพื่อจำกัดการแพร่ระบาด
- คำแนะนำสำหรับ ผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่ต้องแยกตัวเองที่บ้าน ระหว่างรอเข้ารักษาในโรงพยาบาลตามระบบสาธารณสุข