ธัญญ่า อาร์สยาม ควงแม่ เปิดใจปมปัญหาหนี้สิน พร้อมรับแม่กลับบ้าน ขอเคลียร์กันสองคน แม่ร่ำไห้ทุกข์ใจ คิดถึงลูก ไม่เคยจากกันนาน
หลังจากที่นักร้องลูกทุ่งสาว ธัญญ่า อาร์สยาม เปิดใจน้ำตาคลอถึงสาเหตุที่ต้องออกมาโพสต์ประจานแม่ตัวเองกลางเฟซบุ๊ก เรื่องหนี้สินที่แม่ไปยืมจากคนอื่น จนตามใช้ให้ไม่ไหวแล้ว ยอมโดนด่าเป็นลูกอกตัญญู เพียงแค่ขอให้ได้แม่คนเดิมคืนกลับมา
ล่าสุดเมื่อวันที่ 7 พ.ค. 2565 ธัญญ่า ควงคุณแม่ นางดารากร ทวินันท์ เปิดใจกับสื่อมวลชนเป็นครั้งแรก ขณะมาร่วมงานรำลึกครูบูรพาจารย์ พิธีวางศิลาฤกษ์ สร้างศาลาปฏิบัติธรรม ที่มูลนิธิสุบินนิมิต (คุ้มนะหน้าทอง) อ.ไทรน้อย จ.นนทบุรี ซึ่งเป็นการเจอกันครั้งแรกระหว่างแม่ลูก หลังเกิดปัญหาไม่เข้าใจกันร่วม 1 สัปดาห์ โดยวันนี้ธัญญ่ามารับแม่กลับบ้าน บอกไม่เคยคิดทิ้งแม่ พร้อมกลับไปเคลียร์ปัญหาที่เกิดขึ้นกับแม่ที่บ้าน ด้านคุณแม่ ร่ำไห้เสียงสั่นยอมรับว่างอนลูกสาว แต่ไม่เคยโกรธ แค่รอให้มาง้อ เป็นการเข้าใจผิดกัน หลังจากปรับความเข้าใจกันแล้ว สองแม่ลูกกอดหอมกันด้วยความคิดถึง
วันนี้พาคุณแม่มาออกงานด้วย? ธัญญ่า : “จริงๆ ก็พาแม่มาทำบุญที่นี่ตลอดค่ะ”
แม่ : “เป็นที่ที่สบายใจที่สุดค่ะ จริงๆ แม่ก็ขอโทษสื่อทุกท่านแล้วก็แฟนคลับทางบ้านด้วย จริงๆ แล้วก็ไม่มีอะไร แม่ไม่คิดว่ามันจะเป็นข่าว เราไม่เคยงอนกันหนักเลย แต่ครั้งนี้งอนหนักจริงๆ งอนน้อง คือไม่ได้โกรธน้องนะแค่เรารออยากให้ลูกมาง้อแค่นั้นเอง แค่เขาทักมาก็หายแล้ว (ยิ้ม) ไม่ได้มีอะไรค่ะ”
สาเหตุที่งอนกันเกิดจากอะไร? ธัญญ่า : “ที่หนูได้โพสต์ไปแล้วหนูให้คำตอบพี่ๆ ในวันรับปริญญาแล้วเรียบร้อย หนูขอตอบแค่นั้น ในส่วนของเรื่องที่เราเคลียร์กันหนูขอเอาไว้ให้เราคุยกันสองคนดีกว่า”
แสดงว่าหลังจากวันนั้นก็ได้เคลียร์ใจกับคุณแม่แล้ว? ธัญญ่า : “จริงๆ วันนั้น ต่างคนต่างถอยออกมาคนละก้าวก่อน เพราะว่าเราอาจจะมีอารมณ์นอยด์กันทั้งสอง แล้วถ้าคุยกันเราก็จะรู้สึกว่ามันจะต้องมีการเถียงกันหรือเปล่า ก็เลยถอยออกมาห่างกันมาประมาณ 1 อาทิตย์ แล้วแม่ก็อยู่ในที่ๆ สบายใจ คือมีอาจารย์สุบิน (นะหน้าทอง) และแม่ครูฟ้าใส (นฤมล คำแพงน้อย) อยู่ แต่เราก็มีการติดต่อกันเรื่อยๆ จนมาวันนี้ได้เจอกันก็รู้สึกว่าโอเค ต่างคนต่างใจเย็นมากขึ้น แล้วเราก็ได้ปรับความเข้าใจกัน”
ตอนนี้สภาพจิตใจของคุณแม่ดีขึ้นหรือยัง? แม่ : “ก็โอเคขึ้นเลย แค่ไม่ต้องอะไร แค่เขาทักถามแม่อะไรนิดเดียวแม่ก็หายงอนแล้ว ก็อย่างที่รู้ว่าถ้าใครติดตามเรา คือเราจะเหมือนคู่แฝดเลย ตั้งแต่เด็กจนทุกวันนี้ยังกระเตงๆ กัน แต่อันนี้งอนกัน เข้าใจผิดกันแค่นั้นเอง จะให้แม่โกรธลูกเหรอ ไม่โกรธค่ะ แต่แค่น้อยใจ นอยด์เฉยๆ”
ธัญญ่าล่ะความรู้สึกเป็นยังไง หายงอนหรือยัง? ธัญญ่า : “เราก็มีช่วงแรกๆ ค่ะ แต่หลังๆ มา ความคิดถึงยังไงก็คือแม่ คือเราไม่เคยคิดว่าเราจะทิ้งแม่ ปล่อยให้แม่ไปอยู่ที่อื่นๆ นานๆ อยู่แล้ว เพราะไม่เคยห่างแม่อยู่แล้ว วันนี้ก็มารับคุณแม่กลับบ้าน กลับบ้านด้วยกันเพราะว่าเราก็ต่างคนต่างเย็นด้วยกันทั้งคู่แล้วก็จะมีการคุยหาตรงกลางระหว่างเรา ว่าจะยังไงต่อแต่คือยังไงก็หาตรงกลางได้อยู่แล้ว แค่เรามาเจอกันแล้วได้คุยได้จับมือได้กอดกัน ความสัมพันธ์แม่ลูกก็กลับมาแล้ว”
แสดงว่าตั้งแต่วันนั้นยังไม่ได้เจอกับคุณแม่ เพิ่งมาเจอวันนี้วันแรก? แม่ : “เพิ่งเจอวันนี้วันแรกค่ะ เพราะว่าน้องติดงาน”
มาเจอกันวันนี้ความรู้สึกเป็นยังไง? ธัญญ่า : “ซอฟต์ลง เราก็ได้คิดว่าทะเลาะไปก็เหนื่อย หนูเหนื่อยทำงานแล้วต้องมานั่งคิดว่า แม่จะอยู่ยังไง เรามีความกังวลตลอดเวลา เลยรู้สึกว่าเลิกทะเลาะกันเถอะ”
แม่ : “มันไม่ใช่เหนื่อยอย่างเดียว มันมีความทุกข์ด้วย ถามว่าเราคิดถึงลูกไหม คิดถึงมาก เพราะว่าไม่เคยจากกันนาน แล้วยิ่งจากกันเพราะว่านอยด์กันแบบนี้มันเป็นความทุกข์ เราก็ยิ่งคิดถึงเขามาก (ร้องไห้) เขาจะอยู่ยังไง อยากกอดอยากหอมจัง”
ข่าวที่ออกมาส่งผลกระทบต่อเรากับแม่ยังไงบ้าง? ธัญญ่า : “ในส่วนตรงนั้นอยากให้มันจบแค่นั้น ให้มันมีแค่ข้อความนั้นที่ออกไป มันมีต้นเหตุอยู่แค่นั้น ให้ทุกคนรับรู้ในสิ่งที่หนูโพสต์ไปแค่นั้น หนูไม่ได้มีจุดประสงค์ที่จะทำร้ายแม่ แค่อยากจะแก้ต้นเหตุให้มันตรงจุดแค่นั้นเองค่ะ”
ปัญหาตรงนั้นเคลียร์จบแล้วใช่ไหม? ธัญญ่า : “ตรงจุดนี้ต้องขอกลับไปคุยกัน แต่เราต้องคุยกันด้วยเหตุผล จะไม่มีการไปไหนจากกันอีกแล้ว”
ทำไมคุณแม่ถึงเลือกมาอยู่ที่นี่? แม่ : “ตอนนั้นพี่ยีนส์ไปรับ และน้องอยู่ต่างจังหวัด”
ธัญญ่า : “หนูไปรำบวงสรวง ตอนนั้นวิ่งงานต่างจังหวัดตลอดเลย ก็ฝากพี่ยีนส์ดูแลแม่ และแม่ครูกับอาจารย์ก็ดูแลแม่อย่างดี ต้องขอบคุณแม่ครูกับอาจารย์มากๆ ค่ะ”
หลังจากวันรับปริญญา คนมองว่าน่าจะเป็นภาพที่แม่ไปยินดีกับลูก เราเคยบอกแม่อยากเห็นภาพวันสำเร็จของลูก แต่มีเรื่องนี้ขึ้นมาก่อน? ธัญญ่า : “หนูไม่ซีเรียส หนูก็แต่งชุดไปถ่ายรูปใหม่ได้ วันที่ 10 พ.ค. นี้ ก็ตั้งใจแล้วว่าจะแต่งหน้าทำผมไปถ่ายรูปกับตายายที่ร้อยเอ็ดรวมกับแม่ด้วย เป็นภาพเฟรมใบปริญญาแรกของครอบครัว เพราะวันนั้นตากับยายไม่ได้มาด้วย เพราะไม่อยากให้ท่านเดินทางไกล ก็พอดีได้รวมกัน ก็ไม่เป็นไรในวันนั้น ถือว่าเป็นหนึ่งวันที่มีแฟนคลับ มีทุกคนไปร่วมแสดงความยินดี หนูก็โอเคแล้วค่ะ ในเมื่อมันเกิดเหตุระหว่างที่เรารับปริญญาเราก็ต้องยอมรับในสิ่งที่มันจะต้องเกิดขึ้นค่ะ ก็ถ่ายใหม่ได้”
วันนี้แม่ได้เจอธัญญ่าได้พูดคุยอะไรกันบ้าง? แม่ : “ยังไม่ได้คุย แค่แบบมาให้กอดหน่อย แม่ขอกอดหน่อย หอมหน่อย ก็กอดกันหอมกันแค่นั้น ก็ยังไม่ได้คุยอะไรกัน แต่ส่วนมากถ้ามีเรื่องมีปัญหาอะไร เราจะไม่ชอบคุยซ้ำๆ ค่ะ ถ้าคือจบก็จบไป”
หลังจากนี้มีสัญญาใจกันไหม? แม่ : “ก็เดี๋ยวต้องคุยกันค่ะ”
ธัญญ่า : “เดี๋ยวกลับไปคุยที่บ้านกันค่ะ”
สัญญาว่าจะไม่เกิดปัญหาแบบนี้อีก? ธัญญ่า : “ก็คงต้องเป็นสัญญาซึ่งกันและกัน สัญญาทั้ง 2 ฝ่าย เพราะต่างคนต่างก็มีสิ่งใดสิ่งหนึ่งที่ต้องคุยกันเยอะ อันนี้ก็เป็นเรื่องของหนูกับแม่ 2 คนค่ะ”
รู้สึกยังไงบ้างกับข่าว? ธัญญ่า : “ก็ไม่เป็นไรค่ะ แค่เรารู้จุดประสงค์ในการโพสต์ของเรา และเราก็รู้ว่าเราทำอะไรอยู่ และเราก็รู้ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นมันคืออะไร มันอาจเป็นวิธีที่ไม่ได้ดีที่สุดสำหรับทุกคน แต่มันเป็นวิธีที่หนูเลือกแล้ว หนูก็ต้องยอมรับกับทุกอย่างที่มันจะต้องเกิดขึ้น แล้วก็หลังจากนี้เป็นต้นไป ก็ต้องคิดให้เยอะๆ ขึ้น แล้วมีอะไรก็ต้องคุยกันให้มากๆ”
ผู้ใหญ่ที่ค่ายว่ายังไงบ้าง? ธัญญ่า : “ผู้ใหญ่ที่ค่ายจริงๆ ก็ไม่อยากให้พูดอะไรเลยค่ะ ก็ งงๆ อยู่ แต่ก็โอเคในเมื่อเรา รับแม่กลับบ้านแล้ว ก็อยากให้ทุกคนได้เคลียร์ จะได้ไม่ต้องคอยตามว่าดีกันยัง คือให้มันจบตรงนี้”
นอยด์ไหมที่คนวิจารณ์? ธัญญ่า : “ถามว่ากระทบจิตใจไหม มันก็มีบ้างค่ะ แต่ว่าไม่ได้เก็บมาเครียด 100 เปอร์เซ็นต์ อย่างที่หนูบอกไปว่า เรารู้ว่าเราทำอะไร แล้วเราก็รู้ในสิ่งที่เราคิดแล้วทำ ถ้าเรารู้ว่าเราทำดีที่สุดแล้วก็พอแล้วค่ะ”
วันนี้แม่กลับบ้านพร้อมธัญญ่าเลย? ธัญญ่า : “ใช่ค่ะ”